แบงก์-นอนแบงก์
บลจ.กสิกรไทย แนะกลยุทธ์จัดพอร์ต Core & Satellite พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0



 
บลจ.กสิกรไทย ขานรับนโยบายลดหย่อนภาษีจากภาครัฐ “Easy E-Receipt 2.0” พร้อมนำส่งค่าธรรมเนียมจากการซื้อและขายกองทุนที่เข้าเงื่อนไขการลดหย่อนให้กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2568 สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ชูกองทุนแนะนำผ่านการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellite Portfolio ย้ำต้องเป็นคำสั่งซื้อที่มีผล และ/หรือ คำสั่งขายที่ผู้ลงทุนได้รับเงินค่าขายคืนเข้าบัญชีเงินฝาก ในระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 เท่านั้น

 
นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ขานรับนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลผ่านโครงการ Easy E-Receipt 2.0 โดยนำส่งค่าธรรมเนียมจากการซื้อและขายกองทุน (Front-end Fee และ Back-end Fee) ที่เข้าเงื่อนไขการลดหย่อนให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ทั้งนี้ ธุรกรรมการซื้อและขายกองทุน ต้องเป็นคำสั่งซื้อที่มีผล และ/หรือ คำสั่งขายที่ผู้ลงทุนได้รับเงินค่าขายคืนเข้าบัญชีเงินฝาก ในระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

นายวินกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงแนะนำให้ผู้ลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellite Portfolio ผ่านกองทุนแนะนำจากกสิกรไทย ได้แก่ Core Portfolio ซึ่งเน้นลงทุนระยะยาวแบบจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ในสัดส่วนการลงทุนประมาณ 80% ของพอร์ต โดยแนะนำเป็นกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series ซึ่งเป็นกลุ่มกองทุนผสมที่จัดพอร์ตการลงทุนให้สำเร็จรูป ประกอบด้วย 3 กองทุนตามระดับความเสี่ยง ได้แก่ กองทุน K-WPBALANCED ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ 55-85%, K-WPSPEEDUP ที่เน้นสัดส่วนในหุ้นมากขึ้น 50-80% และ K-WPULTIMATE ที่เพิ่มสัดส่วนหุ้นได้มากถึง 100% ทั้งนี้ กลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series มีกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นกระจายการลงทุน (Asset Allocation) ในหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือกทั่วโลก ซึ่งสามารถรับมือกับความผันผวนได้ดีในทุกสภาวะตลาด อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์จากพาร์ทเนอร์ระดับโลก J.P. Morgan Asset Management เข้ามาช่วยดูแลพอร์ตแบบ Look Through (มองเห็นสินทรัพย์ทุกตัวในพอร์ต) และปรับพอร์ตได้อย่างรวดเร็วด้วยข้อมูลเชิงลึกจากทีมผู้เชี่ยวชาญการลงทุนทั่วโลก

สำหรับ Satellite Portfolio ซึ่งเน้นลงทุนระยะสั้นแบบจับจังหวะตลาด (Market Timing) ในสัดส่วนการลงทุนประมาณ 20% ของพอร์ต โดยแนะนำเป็นกองทุน K-FIXEDPLUS มีนโยบายการลงทุนที่เน้นตราสารหนี้คุณภาพดีระยะกลาง-ยาว ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศ, K-GSELECT มีนโยบายการลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF เน้นกระจายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก และ K-PROPI มีนโยบายการลงทุนในหุ้น / REIT ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนได้รับ Morningstar 4 ดาว จากผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องและสม่ำเสมอ (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 31 ธ.ค. 2567)

นายวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนกับกองทุนกสิกรไทยได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย จะจัดส่งใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอีเมลที่ผู้ลงทุนได้สมัครไว้ (สำหรับผู้ลงทุนที่สมัครใช้บริการ K-Mutual Fund Reports) และสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีบริการ K-Mutual Fund Report หากต้องการใบกำกับภาษีเก็บไว้เป็นหลักฐานในการลดหย่อน สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ส่งกลับมาที่ SS_Registrar@kasikornbank.com เพื่อดำเนินการออกเอกสารและจัดส่งให้ผู้ลงทุนต่อไป ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมการขายและค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ม.ค. 2568 เวลา : 16:16:29
05-02-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. มวลอากาศเย็นปกคลุมภาคอีสาน ส่งผลภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยกับมีลมแรง "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 5 องศา

2. ทองเปิดตลาดวันนี้ (5 ก.พ. 68) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 45,750 บาท

3. ตลาดหุ้นไทยเปิด (5 ก.พ.68) ลบ 4.32 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,296.70 จุด

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (5 ก.พ.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 33.68 บาทต่อดอลลาร์

5. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (4 ก.พ.68) ลบ 3.37 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,301.02 จุด

6. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ก.พ.68) บวก 2.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.65 จุด

7. MTS Gold โดยวันนี้จะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,800 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,840 เหรียญ

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 ก.พ.68) บวก 6.22 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,310.61 จุด

9. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 ก.พ.68) บวก 22.10 เหรียญ รับแรงซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

10. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 ก.พ.68) ร่วง 122.75 จุด ทรัมป์ชะลอแผนเก็บภาษีนำเข้าเม็กซิโกลดช่วงลบดัชนี

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.75-34.05 บาท/ดอลลาร์

12. มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาถึงภาคอีสานแล้ว ส่งผลภาคอีสานอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง และทุกภาคอากาศเย็นในตอนเช้า

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 ก.พ. 68) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 45,700 บาท

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ก.พ.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 33.86 บาทต่อดอลลาร์

15. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (3 ก.พ.68) ลบ 10.11 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,304.39 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ February 5, 2025, 10:55 am