เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "รัฐบาลจีนพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนให้มีบทบาทต่อเศรษฐกิจจีนมากขึ้นเพื่อรับมือสงครามการค้ารอบใหม่"


 

ท่ามกลางสงครามการค้ารอบใหม่ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ในวันที่ 17 ก.พ. 2568 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จัดประชุมรวมผู้บริหารบริษัทเอกชนรายใหญ่ของจีน ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มาจากธุรกิจที่อยู่ในกำลังการผลิตใหม่ (New productive force) เช่น เทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ และ AI เป็นต้น (ตารางที่ 1) โดยการประชุมครั้งนี้ “แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา” ที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินจีนเคยสั่งให้ยุติการทำ IPO ของบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินในเครืออาลีบาบาได้มาเข้าร่วมประชุมด้วยเช่นกัน

 
การประชุมดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณสำคัญจากทางการจีนในหลายประการ ดังนี้

1. ภาคเอกชนจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนมากขึ้น โดยประธานาธิบดีจีนระบุว่าจะผ่อนคลายกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการลงทุนของภาคเอกชน เช่น ต้นทุนเงินทุนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการปฎิบัติแก่บริษัทเอกชนให้เท่าเทียมกับบริษัทของรัฐบาล (Equal Treatment)

2. กลยุทธ์ที่จีนจะใช้รับมือกับสหรัฐฯ โดยจีนจะลดบทบาทการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯและการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศจะมีความเข้มข้นขึ้นโดยการประชุมดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ผู้เข้าร่วมมาจาก CEO ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี (รูปที่ 2)
 

 
3. การเน้นย้ำจุดยืนของทางการจีนที่จะนำอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนทดแทนอุตสาหกรรมเดิมอย่างภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยนักวิเคราะห์จาก Bloomberg ระบุว่า “ผู้บริหารในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมสะท้อนกลุ่มอุตสาหกรรมที่จีนให้ความสนใจที่เปลี่ยนไป”

 
4. การคุมเข้มและกฎระเบียบต่าง ๆ ของรัฐบาลจีนต่อภาคเอกชนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอาจสิ้นสุดลงแล้ว

หลังการประชุมตลาดหุ้นจีนตอบรับในเชิงบวก โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง (HSTECH) ปิดบวกที่ 5639.05 จุด (+2.5%) และดัชนีตลาดหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง (HSCEI) ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 8475.4 จุด (+1.8%) (ณ วันที่ 18 ก.พ. 2568 )

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าการประชุมครั้งนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจได้มากขึ้น แต่ยังต้องรอติดตามรายละเอียดและแนวนโยบายที่ชัดเจนที่คาดว่าจะมีระบุเพิ่มเติมในการประชุมสองสภาของจีนเดือนมี.ค.2568

LastUpdate 19/02/2568 17:56:10 โดย : Admin
23-02-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ราคาทองวันนี้ 22/02/2568 ปรับเพิ่ม 100 บาท ราคาทองคำแท่ง 46,700 บาท

2. ดาวโจนส์ปิดร่วง 748.63 จุด กังวลภาวะเศรษฐกิจ-ภาษีศุลกากร

3. ทองคำนิวยอร์กปิดลบ $2.90 จากแรงขายทำกำไรหลังทำนิวไฮ

4. พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 22 ก.พ.2568 ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่

5. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (21 ก.พ.68) บวก 0.60 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,246.21 จุด

6. ประกาศ กปน.: 26 ก.พ. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันออก) และถนนพระรามที่ 1

7. หุ้นไทยปิดเช้าบวก 1.86 จุด มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 26,511.63 ล้านบาทแกว่งผันผวน ได้แรงซื้อกลุ่ม GULF หนุน คาดบ่ายไซด์เวย์

8. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,910 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,955 เหรียญ

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (21 ก.พ.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 33.55 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.45-33.70 บาท/ดอลลาร์

11. กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. ฝนฟ้าคะนอง 20% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 30%

12. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (20 ก.พ.68) ทำนิวไฮ บวก 20 เหรียญ กังวลภาษีทรัมป์หนุนแรงซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (20 ก.พ.68) ลบ 450.94 จุด หวั่นผลกระทบมาตรการภาษีทรัมป์ ฉุดผลประกอบการวอลมาร์ทร่วง

14. ทองเปิดตลาดวันนี้ (21 ก.พ. 68) ร่วงลง 400 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 47,100 บาท

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (21 ก.พ.68) ลบ 2.08 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,243.53 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ February 23, 2025, 3:54 am