กองทุนรวม
กยศ. เร่งคืนเงินส่วนที่ชำระเกินให้ผู้กู้ยืม ภายหลังจากการคำนวณยอดหนี้ใหม่


กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เร่งคืนเงินให้ผู้กู้ยืมที่มีสิทธิได้รับเงินคืนในส่วนที่ชำระเกินภายหลังจากการคำนวณยอดหนี้ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้กู้ยืมลงทะเบียนขอรับเงินคืนกว่า 2.4 หมื่นบัญชี และมีการคืนเงินไปแล้ว จำนวน 2,354 บัญชี เป็นเงินกว่า 74 ล้านบาท โดย กยศ. จะดำเนินการคืนเงินผ่านระบบโอนเงินแบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืม และแบ่งการคืนเงินเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกคืนเงินให้ก่อน 70% ของยอดเงินที่จะได้รับคืน และรอบที่ 2 เมื่อการคำนวณหนี้ผ่านระบบ DSL แล้วเสร็จ
 
 
ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้เปิดเผยว่า "จากการที่ กยศ.ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ของผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนตามประกาศคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เรื่อง การปรับปรุงยอดหนี้ของผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ ซึ่งเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้เป็นตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ รวมทั้งคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และลดเบี้ยปรับเหลือเพียงอัตรา 0.5% ต่อปี ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมลงทะเบียนขอรับเงินคืนแล้วกว่า 2.4 หมื่นบัญชี (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568) โดย กยศ.ได้คืนเงินแล้ว จำนวน 2,354 บัญชี เป็นเงินกว่า 74 ล้านบาท 
 
ทั้งนี้ ในการคืนเงินต่อไป กยศ. จะคืนเงินส่วนที่ชำระเกินจากยอดหนี้ที่ปรับปรุงใหม่ให้แก่ผู้กู้ยืมผ่านระบบโอนเงินแบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเท่านั้น และแบ่งการคืนเงินให้ผู้กู้ยืมแต่ละรายเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกคืนเงินให้ในอัตรา 70% ของยอดเงินที่จะได้รับคืน และรอบที่ 2 เมื่อมีการคำนวณหนี้ผ่านระบบ Digital Student Loan Fun System (DSL) แล้วเสร็จ หากพบว่าผู้กู้ยืมยังมีเงินส่วนที่ชำระเกิน กยศ. จะคืนเงินส่วนที่เหลือให้แก่ผู้กู้ยืม และหากผู้กู้ยืมได้รับคืนเงินเกินสิทธิ กยศ. จำเป็นต้องเรียกเงินดังกล่าวคืนต่อไป 
 
ผู้จัดการกองทุนฯ เปิดเผยต่อไปว่า “ขอให้ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนเข้าระบบตรวจสอบสถานะบัญชีผู้กู้ยืมที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ซึ่งหากมีสิทธิได้รับเงินคืนจะสามารถลงทะเบียนขอรับ    เงินคืนได้ และเมื่อระบบ DSL ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วยอดหนี้ทั้งหมดจะถูกปรับโดยอัตโนมัติและจะแสดงในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการคืนเงินให้แก่ผู้กู้ยืมเงินที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิการคืนเงินได้ครบถ้วนภายในเดือนพฤษภาคม 2568”    
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ก.พ. 2568 เวลา : 18:28:53
03-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (31 ต.ค.68) ลบ 5.15 จุด ดัชนี 1,309.50 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (31 ต.ค.68) บวก 0.17 จุด ดัชนี 1,314.82 จุด

3. MTS Gold คาดว่าตลาดจะ หยุดการปรับตัวลง และจะเข้าสู่ช่วง Sideway สร้างฐานราคา กรอบแนวรับ 3,980 เหรียญ แนวต้านที่ 4,080 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นไทยเปิด (31 ต.ค.68) ลบ 8.51 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.14 จุด

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (31 ต.ค. 68) ปรับขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,200 บาท

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) ร่วง 109.88 จุด หุ้น Meta-Microsoft ฉุดตลาด-กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (31 ต.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.34 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) บวก 15.20 ดอลลาร์ รับเฟดลดดอกเบี้ย-ความไม่แน่นอนข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐ

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (31 ต.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต." ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60%

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (30 ต.ค.68) ลบ 0.99 จุด ดัชนี 1,314.65 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 ต.ค.68) ลบ 5.87 จุด ดัชนี 1,309.77 จุด

13. MTS Gold ราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 59,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 61,000 บาท/บาททองคำ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 ต.ค.68) บวก 17.6 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย 0.25%

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 ต.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 3, 2025, 4:39 am