กองทุนรวม
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งในกรอบ รอดูปัจจัยใหม่"


คาด SET แกว่งตัวในกรอบ โดยปัจจัยแวดล้อมยังคงเดิมทั้งเรื่องมาตรการภาษีของ ปธน. ทรัมป์ รวมทั้งความกังวลสงครามการค้าแผ่ขยายออกไปหลังจีนขึ้นภาษีตอบโต้แคนาดา ส่วนประเด็นในประเทศวันนี้ติดตามการประชุม คกก. นโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1 คาดพิจารณาโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 3 ประเมินแนวรับที่ 1190 - 1185 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1210 - 1215 จุด

ประเด็นสำคัญ

• จีนเผย CPI ก.พ. ลดลง 0.7%YoY ลดลงสูงกว่าตลาดคาด และ PPI ก.พ. ที่ลดลง 2.2%YoY สะท้อนภาวะเงินฝืดในจีนที่ยังคงมีอยู่ ส่วนสหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. เพิ่มขึ้น 1.51 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ และอัตราว่างงานปรับขึ้นสู่ 4.1%

• Nasdaq มีแผนที่จะทำให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 5 วันทำการ คาดจะสามารถเริ่มปฏิบัติได้ใน 2H69 หากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลและโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อม

• วันนี้ติดตามประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดจะมีการพิจารณาดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 วงเงิน 1.75 แสนลบ., หยุดแรงขายกองทุนรวม LTF พร้อมเพิ่มลดหย่อน Thai ESG เป็น 6 แสนบาท, ผ่อนเกณฑ์ LTV ซื้อบ้านหลังที่ 2 และเล็งต่ออายุลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง

• ประธาน ตลท. เผยภายใน 3-6 เดือนนี้จะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาสำหรับฟื้นความเชื่อมั่นตลาดทุน เช่น แก้กฎหมาย, ออมหุ้นระยะยาว (TISA), โครงการ Jump+, ซื้อหุ้นคืน, ลดเกณฑ์เข้าจดทะเบียน-สิทธิทางภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก-Startup และเพิ่มสินค้า New Economyนายกฯ, รมว.คลัง, ก.ล.ต. และ ตลท. หารือร่วมกันเพื่อหามาตรการเพื่อดัน GDP เติบโต 3.5% คาดใน มี.ค. จะมีความชัดเจนของมาตรการ

• พาณิชย์เผยเงินเฟ้อไทย ก.พ. ขยายตัว 1.08%YoY จากราคาที่สูงขึ้นของอาหาร ดีเซล และไฟฟ้า และคาดเงินเฟ้อ มี.ค. จะใกล้เคียงกับ ก.พ. ขณะที่เงินเฟ้อเฉลี่ยใน 2Q68 จะขยายตัวเพียง 0.5% จากฐานที่สูง

• รมว. คมนาคมเตรียมเสนอโครงการบ้านเพื่อคนไทยเข้าสู่ ครม. ขออนุมัติการก่อสร้างใน 4 พื้นที่และเสนอสานต่อเฟสที่ 2 เพื่อตอบรับความต้องการ ตั้งเป้าขยายต่อเนื่องและสร้างที่อยู่อาศัย 1 แสนยูนิต

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวบ้าง โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก เช่น สหรัฐฯ อาจเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าบางรายการจากเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่ยังมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน นอกจากนี้เงินเฟ้อจีนและสหรัฐฯ คาดยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและราคาพลังงานที่ลดลง และน่าจะทำให้เฟดยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงิน ส่วนปัจจัยในประเทศยังติดตามเสถียรภาพทางการเมือง การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐ การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนใน เม.ย. และเงื่อนไขของการโอนย้ายเม็ดเงินกองทุน LTF เป็น ThaiESGX ซึ่งจะทำให้ตลาดมีแรงขายลดลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง หนุนจากความคาดหวังจากปัจจัยภายนอกและรัฐบาลไทยมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน เลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) กำไรปี 2568 คาดเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Int. Cov. Ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield อย่างน้อย 2% และ 5) SETESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปี และ SETESG Rating ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield เกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ผลประกอบการปี 2568 ยังแข็งแกร่งและยังมี Upside เกิน 15%  แนะนำ AP KTB BBL PTT SPALI KBANK

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนกำไร 1Q68 ที่คาดจะเติบโต YoY และ QoQ และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากงาน Opp. Day ซึ่งคาดจะมีโทนประชุมเป็นบวกในสัปดาห์นี้และเราดูแลอยู่อย่าง AU TIDLOR BTG PTG

DAILY TOP PICKS
BTG: มองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจากโมเมนตัมกำไรที่เป็นขาขึ้น ราคาสุกรไทย 1Q68TD เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (+18% YoY, +8% QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากอุปทานที่ตึงตัวขึ้นจากมาตรการควบคุมการผลิตสุกรของรัฐบาลก่อนหน้านี้ และการแพร่ระบาดของโรค ASF ในช่วงปลาย 3Q67 ถึงต้น 4Q67 ท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง  

ADVANC: มองเป็นหุ้น Defensive ซึ่งกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย 1Q68 คาดกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง YoY (จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยว) และ QoQ (จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง) หนุนให้ปี 2568 คาดมีกำไร 38.5 พันลบ. เติบโต 10.5%YoY อีกทั้งมองมีโอกาสเพิ่มกำไรจากการประมูลใบอนุญาตที่กำลังจะมาถึง  
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 มี.ค. 2568 เวลา : 12:08:21
19-09-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 ก.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี

2. ตลาดหุ้นปิด (18 ก.ย.2568) ลบ 9.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,297.01 จุด

3. ประกาศ กปน.: 20 ก.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลุมพินี

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ก.ย.68) ลบ 6.73 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,299.96 จุด

5. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 3,640 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 3,680 เหรียญ

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (18 ก.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล" ฝนตกหนัก 80% ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 70% ภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 60% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40%

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 ก.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 ก.ย. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 55,850 บาท

10. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 ก.ย.68) พุ่ง 260.42 จุด เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (18 ก.ย.68) บวก 4.31 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,311.00 จุด

12. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 ก.ย.68) ร่วง 7.30 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟด

13. ตลาดหุ้นไทยปิด (17 ก.ย.2568) ลบ 1.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.69 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ก.ย.68) บวก 1.97 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,310.16 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 3,660-3,640 เหรียญ และแนวต้าน 3,700-3,720 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 19, 2025, 12:59 am