เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งพักตัว ด่านสำคัญที่ 1200"


คาด SET แกว่งในกรอบรอประเด็นใหม่ หลังขึ้นมาตอบรับ Sentiment บวกไปพอควรแล้ว คาดตลาดกลับมาให้น้ำหนักการเมืองในประเทศที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้มอง SET หากยังไม่ผ่าน 1200 จุด อาจพลิกกลับมาลงได้ต่อ ประเมินแนวรับที่ 1170 - 1160 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1190 - 1200 จุด

ประเด็นสำคัญ

• ยูเครนใช้โดรนโจมตีฐานทัพอากาศซึ่งมีเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซีย ทำให้รัสเซียต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนกองทัพอิสราเอลเผยว่ามีจรวดถูกยิงเข้าสู่ตอนกลางอิสราเอลจจากพื้นที่ฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กลุ่มฮามาสโจมติตอบโต้ครั้งแรกนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงล่มสลาย

• ธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว กำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน 100% เพื่อช่วงประคับประคองภาคอสังหาฯ มีผลต่อสัญญาเงินกู้ที่ทำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568– 30 มิ.ย. 2569

• รมว. คลังเดินหน้ามาตรการแก้หนี้ NPL สำหรับส่วนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต-การบริโภค วงเงิน 4.27 แสนลบ. หรือ 35% ของ NPL ทั้งหมด โดยจะทำงานร่วมกันระหว่างลูกหนี้ ธนาคาร ผู้บริหารหนี้ และรัฐบาล  

• เครดิตบูโรเผยจากจำนวนลูกหนี้ในระบบ 27 ล้านลูกหนี้ มี 25% ที่เกณฑ์สุขภาพทางการเงินดี, 38% เสี่ยงเป็นหนี้เรื้อรัง และ 17% มีหนี้ NPL หนี้บุคคลธรรมดาลดลง 0.5%YoY จากการปฏิเสธการให้สินเชื่อสูง

• BoE มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย 4.5% ตามที่ตลาดคาดไว้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก, การทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ และปรับลดคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจลงสู่ 0.75% จาก 1.50%

• EU เลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ออกไป 2 สัปดาห์ จากเดิมที่จะมีผลในวันที่ 1 เม.ย. เพื่อให้มีเวลาเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ

• จับตาดีลควบรวมระหว่าง "KTB-TTB" จ่อขึ้นแท่นเบอร์ 1 กลุ่มแบงก์ หนุนสินทรัพย์รวมกว่า 5.36 ล้านลบ. ลดต้นทุนธุรกิจ สร้างโอกาสเติบโตใหม่ และสร้างความแข็งแกร่งบนดิจิทัลแบงกิ้ง

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะฟื้นตัวได้บ้าง หลังดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรง 16%YTD แย่สุดในตลาดหุ้นทั่วโลกแล้ว เนื่องจากถูกกดดันทั้งจากกังวลสงครามการค้าและขาดปัจจัยหนุนในประเทศ อย่างไรก็ดีมองว่าแรงขายในภาพรวมน่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX ซึ่งคาดจะจำกัดแรงขายของ LTF และมีความหวังจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2568 ขณะที่การประชุมนโยบายการเงิน BoJ FOMC และ BoE มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะมีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง จากแรงขายที่น่าจะชะลอหลังมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX คัดเลือกจาก 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้น SET50 ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC BBL BDMS CPALL PTT ส่วนหุ้น SET100 ที่น่าสนใจ ได้แก่ AP BCH BTG

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี มีคุณสมบัติ 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป และมี SETESG Ratings ตั้งแต่ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield สูงเกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ปี 2568 ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK

3. หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุน มีคุณสมบัติ 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Interest Coverage ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SETESG Ratings ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG

DAILY TOP PICKS

‎PTTEP: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นหลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านรอบใหม่ และมีสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง แม้ปี 2568 คาดกำไรจะอ่อนแอลง YoY แต่ยังมีงบดุลที่แข็งแกร่ง (มีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนน้อยกว่า 0.3 เท่า) แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 113 บาท

SPALI: มองราคาหุ้นระยะสั้นมีปัจจัยกระตุ้นจาก ธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว คาดจะหนุนให้ Presales ดีดตัวขึ้นในช่วงที่มีมาตรการ และน่าสนใจในฐานะหุ้นปันผลคุณภาพดี ปี 2568 คาดมีกำไรเติบโตอย่างน้อย 2%YoY ซึ่งยังไม่รวม Upside จากการผ่อนปรน LTV และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H67 หุ้นละ 0.85 บาท (XD 7 พ.ค.) คิดเป็น Div. Yield 4.9%  
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 มี.ค. 2568 เวลา : 11:52:06
09-05-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 พ.ค.68) ลบ 5.67 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,200.92 จุด

2. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (8 พ.ค.68) ร่วง 85.90 เหรียญ หลังสหรัฐ-อังกฤษ บรรลุข้อตกลงการค้า

3. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (8 พ.ค.68) พุ่ง 254.48 จุด ขานรับ "สหรัฐ-อังกฤษ" บรรลุข้อตกลงการค้า

4. อุตุฯเตือนระวัง "พายุฤดูร้อน" วันนี้ "ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก" ฝนฟ้าคะนอง 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง 30% ภาคใต้ 30-40%

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์

6. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (9 พ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 33.02 บาทต่อดอลลาร์

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (9 พ.ค. 68) ร่วงลง 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,450 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (9 พ.ค.68) บวก 6.28 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,212.87 จุด

9. ประกาศ กปน.: 13 พ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านใต้) และถนนอนามัยงามเจริญ

10. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (8 พ.ค.68) ลบ 13.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,206.59 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (8 พ.ค.68) ลบ 7.43 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,212.84 จุด

12. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (7 พ.ค.68) ร่วง 30.90 เหรียญ รับสงครามการค้าส่งสัญญาณคลี่คลาย

13. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,380 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,425 เหรียญ

14. ทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ภาคใต้ ฝน 40-60% ภาคตะวันออก 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคกลาง 30% ภาคเหนือ 20%

15. ทองเปิดตลาดวันนี้ (8 พ.ค. 68) พุ่งขึ้น 400 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 53,600 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 9, 2025, 1:22 pm