แบงก์-นอนแบงก์
กลุ่มบริษัทเคทีซีแกร่ง กำไรโตต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์พอร์ตคุณภาพ


เคทีซีนำกลุ่มบริษัทฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ เผยไตรมาส 1/2568 ทำกำไรสุทธิ 1,861 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัวอยู่ที่ 107,093 ล้านบาท ควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี ส่วนแบ่งตลาดสองเดือนแรกของปี 2568 สูงกว่าอุตสาหกรรมในทุกมิติ ทั้งลูกหนี้บัตรเครดิต ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร และลูกหนี้สินเชื่อบุคคล เดินกลยุทธ์สู่เป้าหมายธุรกิจ มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อรวมควบคู่การคุมคุณภาพสินทรัพย์ ภายใต้กรอบการให้สินเชื่อด้วยความรับผิดชอบและเป็นธรรม 

 
นางพิทยา  วรปัญญาสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสินเชื่ออุปโภคบริโภคมีอัตราการขยายตัวลดลง โดยปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของครัวเรือนที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และมีภาระหนี้สูง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 เคทีซีสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในทุกมิติสูงกว่าอุตสาหกรรมจากช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยสัดส่วนลูกหนี้บัตรเครดิตเพิ่มเป็น 15.3% จาก 14.6% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มเป็น 13.5% จาก 12.4% และสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน) เพิ่มเป็น 6.7% จาก 6.1%”

“แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจไทยมีความอ่อนตัวลงมากกว่าที่คาด เคทีซียังเชื่อว่ากลยุทธ์ของเคทีซีในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล จะช่วยให้กลุ่มบริษัทมีความยืดหยุ่นสามารถรองรับและปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในเชิงการตลาดเคทีซียังเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ที่เน้นสร้างฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล รวมถึงการคัดกรองคุณภาพพอร์ต จะทำให้เคทีซีสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อสิ้นสุดปี 2568 ทั้งมูลค่ากำไรที่สูงขึ้นต่อเนื่อง พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัวประมาณ 4%-5% การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตในอัตรา 10% พอร์ตลูกหนี้บัตรกด   เงินสด “เคทีซี พราว” ขยายตัวที่ 3% ยอดลูกหนี้ใหม่ของสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ที่ 3,000 ล้านบาท และ NPL รวม (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ไม่เกิน 2%”   

ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 กลุ่มบริษัทเคทีซีมีกำไรสุทธิ 1,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% ฐานสมาชิกรวม 3,486,729 บัญชี พอร์ตสินเชื่อรวมมีมูลค่า 107,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% NPL Ratio ของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 1.97% พอร์ตสมาชิกบัตรเครดิตเท่ากับ 2,796,551 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 70,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่ากับ 74,053 ล้านบาท ขยายตัว 6.7% NPL Ratio บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.21% ขณะที่พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลรวม 690,178 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคล และดอกเบี้ยค้างรับรวม 34,857 ล้านบาท เติบโตที่ 5.2% NPL Ratio สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.35% สำหรับสินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่ามีมูลค่า 1,953 ล้านบาท โดยเคทีซีได้หยุดการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 ปัจจุบันมุ่งเน้นการติดตามหนี้และบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่

สำหรับรายได้รวมของกลุ่มบริษัทเคทีซีในช่วงไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% (YoY) จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ รายได้ค่าธรรมเนียมด้านร้านค้า รายได้จากการเบิกถอนเงินสดและรายได้ค่าธรรมเนียม Interchange ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยและหนี้สูญได้รับคืนลดลงเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายรวม 4,433 ล้านบาทลดลง 1.6% (YoY) จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมสูงขึ้นหลักๆ จากค่าธรรมเนียมจ่ายเพิ่มขึ้นตามปริมาณธุรกรรม และค่าใช้จ่ายด้านการตลาด โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมอยู่ที่ 35.1% ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเท่ากับ 1,594 ล้านบาท ลดลง 5.3% (YoY) จากการตัดหนี้สูญที่ลดลง และต้นทุนทางการเงิน 439 ล้านบาท ลดลง 2.6% (YoY) จากการที่บริษัทมีเงินกู้ยืมลดลง

กลุ่มบริษัทเคทีซียังมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ในระดับสูงที่ 18.3% และอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ในระดับต่ำที่ 1.58 เท่า ลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 1.83 เท่า และอยู่ระดับต่ำกว่าภาระผูกพัน (Debt Covenants) ซึ่งกำหนดไว้ที่ 10 เท่า และด้วยความสามารถในการรักษาเสถียรภาพในทุกช่วงวงจรธุรกิจ ซึ่งสะท้อนจากความสามารถในการสร้างผลกำไร การมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและการรักษาตำแหน่งทางการตลาด บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงได้เพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบัน เป็น “AA” จาก “AA-” ในวันที่ 9 เมษายน 2568 ทั้งนี้ เคทีซีมีวงเงินกู้ยืมระยะสั้นคงเหลือ 23,495 ล้านบาท และมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงไทยคงเหลืออีกจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทมีหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปี 2568 จำนวนทั้งสิ้น 11,000 ล้านบาท 

นางพิทยากล่าวเพิ่มเติมว่า “เคทีซียังคงมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ระยะยาว ตามประกาศของ ธปท. ที่ 3/2568 เรื่อง การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending: RL) ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 โดยบริษัทได้มีการพิจารณาให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และไม่ทำให้ลูกหนี้มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากภาระหนี้เดิมเกินสมควร ได้แก่ การเปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อบุคคลระยะยาว การขยายระยะเวลาชำระหนี้ การปรับลดค่างวด เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.ktc.co.th/about/news/measure” 

“เนื่องจากเคทีซีเป็นสถาบันการเงินในกลุ่มธุรกิจของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จึงเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้ชื่อโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” โดยสมาชิกสามารถลงทะเบียนผ่าน https://www.ktc.co.th/khunsoo  ระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม 2567 -  30 เมษายน  2568 นอกจากนี้ เคทีซียังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยและเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน https://www.ktc.co.th/en/about/news/earthquake-aid-measures เคทีซีคาดว่ามูลค่าการช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการต่างๆ ข้างต้นจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินการของกลุ่มบริษัทในภาพรวม”
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 เม.ย. 2568 เวลา : 19:53:44
21-04-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิด (18 เม.ย.68) บวก 9.67 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,150.95 จุด

2. ประกาศ กปน.: 24 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเทอดพระเกียรติ

3. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.68) บวก 3.88 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,145.16 จุด

4. MTS Gold คาดจะมีกรอบแนวรับ ที่ 2,290 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 3,350 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.68) ร่วง 527.16 จุด เหตุหุ้น UnitedHealth ดิ่งหนักฉุดตลาด

6. ประเทศไทยฝนฟ้าคะนองในภาคใต้ 40% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 30% กรุงเทพปริมณฑล 20%

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.68) ร่วง 18 เหรียญ จากแรงเทขายทำกำไรหลังราคาพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.25-33.45 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 เม.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 เม.ย. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 53,250 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (18 เม.ย.68) บวก 1.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,143.26 จุด

12. ตลาดหุ้นไทยปิด (17 เม.ย.68) บวก 2.38 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,141.28 จุด

13. ประกาศ กปน.: 22 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตัดถนนพัฒนาการตัดใหม่

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 เม.ย.68) ลบ 1.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,137.81 จุด

15. ทั่วไทยวันนี้ฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ ฝนตกหนัก 60-70% ภาคตะวันออก 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน 30%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 21, 2025, 4:02 am