
หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษี Reciprocal tariffs กับจีนสูงถึง 125% ส่งออกจีนไปสหรัฐฯ เดือนเม.ย.68 ปรับลดลง -21.0% YoY จาก +9.1%YoY ในเดือนมี.ค.68 อย่างไรก็ดี การส่งออกจีนไป ASEAN ยังเร่งตัวขึ้นอยู่ที่ +20.8%YoY นำโดยการส่งออกไปอินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ทดแทนการหดตัวจากการส่งออกไปสหรัฐฯ หนุนให้การส่งออกจีนเดือนเม.ย.68 ยังเติบโตได้ที่ 8.1%YoY จาก 12.4%YoY ในเดือนมี.ค.68 (รูปที่ 1) โดยจีนยังเกินดุลการค้าอยู่ที่ 96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในระยะข้างหน้าการส่งออกจีนไปสหรัฐฯ คาดยังมีทิศทางชะลอลง ขณะที่การส่งออกไป ASEAN เพื่อทดแทนคาดลดลง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจีน
ในเดือนเม.ย.68 ลดต่ำลงกว่าระดับขยายตัวอยู่ที่ 49 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน นอกจากนี้ การระงับ Reciprocal tariffs ชั่วคราวของสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ จะสิ้นสุดลงในอีก 2 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ระดับของการชะลอลงของการส่งออกยังขึ้นอยู่กับผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คาดจะเกิดขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์สัปดาห์นี้ โดยสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดภาษีสินค้านำเข้ากับจีน หลังช่วงที่ผ่านมาทางสหรัฐฯ มีท่าทีที่อ่อนลงในการปรับขึ้นภาษีกับจีน เนื่องจากสหรัฐฯ ยังต้องพึ่งพาสินค้าอุปโภคบริโภคจากจีนในระดับสูง การย้ายฐานการผลิตยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้เร็ว ซึ่งอัตราภาษีที่ปรับเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบทางตรงกับผู้บริโภคในสหรัฐฯ (รูปที่ 2)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าส่งออกจีนปี 2568 มีแนวโน้มหดตัวอย่างน้อย 3% แม้คาดว่าจะมีการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยอัตราภาษีนำเข้าระหว่างอาจปรับลดลงจากระดับปัจจุบัน แต่มาตรการการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีจะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ความไม่แน่นอนทางการค้ายังคงมีอยู่
ข่าวเด่น