(-/+) ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ภายหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่าการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซีย เป็นไปได้ด้วยดี โดยผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดพบปะกับผู้นำยูเครนในค่ำคืนนี้ ก่อนที่จะมีการพูดคุยระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซีย ที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน อย่างไรก็ดี ตลาดมีแนวโน้มกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบก่อนการเจรจาสันติภาพ หลังผู้นำสหรัฐฯ กล่าวภายหลังการพูดคุยกับ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ว่าอินดียพร้อมที่จะหยุดซื้อน้ำมันดิบของรัสเซีย เพื่อเป็นการกดดันในการตัดรายได้ซึ่งใช้ในการทำสงครามของรัสเซีย นอกจากนี้รัฐมนตรีการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ญี่ปุ่นหยุดซื้อพลังงานจากรัสเซียเช่นเดียวกัน โดยตัวเลขล่าสุดบ่งชี้ว่าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของญี่ปุ่นจากรัสเซียอยู่ที่ราว 9% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด
(+) ตลาดจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาอย่างใกล้ชิด ภายหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่าได้อนุมัติปฎิบัติการของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ในเวเนซุเอลาและกำลังพิจารณาการใช้ปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน การอนุมัติดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการโจมตีของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องต่อขบวนการค้ายาเสพติดเวเนซุเอลาในเดือน ก.ย - ต.ค. 68 ที่ผ่านมา
(-) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ต.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 423.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
ข่าวเด่น