เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "ป่าฝนเขตร้อน: ประเด็นสำคัญของการประชุม COP30 ปี 2025"


· ในการประชุม COP30 จะมีการผลักดันประเด็นใหม่ เรื่องการมีส่วนร่วมของป่าไม้เขตร้อน เป็นประเด็นสำคัญ โดยจะทำให้ไทยมีบทบาท ผ่านการผลักดันจากการจัดตั้งพันธมิตรป่าไม้เขตร้อนระหว่าง แอมะซอน-คองโก-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

· COP30 จะเป็นเวทีให้เกิดการผลักดันราคา

คาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ขั้นต่ำที่ 30 – 50 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายในไทยราว 4.25 เท่า และไทยมีศักยภาพผลิตคาร์บอนเครดิตได้ราว 20–30 MtCO2eq/ปี

· ไทยควรใช้โอกาสนี้ในการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ให้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองในการเข้าถึงกลไกทางการเงินใหม่ด้านป่าไม้ ได้แก่ Tropical Forest Finance Mechanism รวมถึงพัฒนากฎระเบียบ และมาตรฐานเพื่อต่อยอดการเข้าถึงตลาดคาร์บอนระหว่างประเทศ

ประเด็นพูดคุยใน COP30

1. ประเด็นผลักดันพิเศษในการประชุม COP30

ประเด็นเรื่อง “การมีส่วนร่วมของป่าไม้เขตร้อน” (Tropical Forests Involvement) เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการประชุม เนื่องจากบราซิลเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดการประชุม COP30 ในครั้งนี้ และตั้งอยู่ในภูมิภาคแอมะซอนซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศเขตร้อนของโลก


นอกเหนือจากแอมะซอน ยังมีการรวบรวมป่าเขตร้อนในพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลก เพื่อทำให้ประเทศเจ้าของป่ามีบทบาทมากขึ้นในฐานะผู้ปกป้องคาร์บอนของโลก และได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรม โดยมีการจัดตั้งพันธมิตรป่าไม้เขตร้อน (Three Basins Initiative) ระหว่างแอมะซอน คองโก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้1 (Coalition of the Three Basins) อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมมือด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาการเงินเพื่อป่าไม้เขตร้อน (Tropical Forest Finance) และสร้างอำนาจการเจรจาและต่อรองทำให้แอมะซอน–คองโก–เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะได้รับความสำคัญ COP30 ครั้งนี้

รูป: 3 ป่าฝนหลักของโลก และบทบาทในการประชุม COP30

ที่มา: Summit of the three basins, Global Carbon Budget 2023, ASEAN Forest Outlook, IPCC, COP30 รวบรวมศูนย์วิจัยกสิกรไทย

2. อัพเดทสถานการณ์และประเด็นสืบเนื่อง

นอกจากนี้ ในการประชุม COP30 จะมีการประกาศแผนการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศที่แต่ละประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions: NDCs) ชุดใหม่ (ปี 2025–2035) ของทุกประเทศ และการพูดคุยในประเด็นสืบเนื่องจากการประชุมครั้งก่อนๆ ได้แก่ การจัดตั้งกลไกการเงินใหม่ New Collective Quantified Goal (NCQG) การดำเนินการตามข้อตกลง Loss and Damage Fund การเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด (Just Energy Transition

ทำไม “ป่าไม้เขตร้อน” จึงสำคัญใน COP30

· ป่าไม้เขตร้อน (Tropical Forests) ใน แอมะซอน–คองโก–เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่รวมกันกว่า 1.1 พันล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 6.88 พันล้านไร่)

· เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนมากที่สุดในโลก — ประมาณ 4-5 พันล้านตัน CO2 เทียบเท่า (GtCO2eq) /ปี 2

· ป่าเขตร้อน 3 แห่งดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถูกทำลายและเปลี่ยนใช้ที่ดิน (deforestation) เพื่อเกษตรกรรม เหมือง และพลังงานชีวภาพ และกำลังทำให้ป่าเขตร้อนเป็นแหล่งปล่อย CO2 สุทธิ (Net Positive Carbon Source)

· บราซิล อินโดนีเซีย และคองโก เป็น 3 ประเทศที่มีการปล่อย CO2 จากการตัดไม้เพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากที่สุด (Land-Use Change Emission) ประมาณ 2.5 GtCO2eq/ปี หรือประมาณ 60% 3

ประเด็นด้านการเงินป่าไม้

1. Tropical Forest Finance Mechanism

- จะมีการเสนอให้จัดตั้งกองทุนป่าไม้เขตร้อนเพื่ออนาคต (Tropical Forests Forever Fund: TFFF) เป็นกองทุนเฉพาะสำหรับประเทศป่าเขตร้อน

- แหล่งเงินทุน: กลไกการเงินใหม่ (NCQG), ภาษีคาร์บอนระหว่างประเทศ, กลไก Article 6.2 และ 6.4 ของข้อตกลงปารีส โดยตั้งเป้าหมายเงินทุน 250 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030

- หลักเกณฑ์: ต้องรักษาพื้นที่ป่าเดิมอย่างน้อย 90%, ต้องมีระบบ MRV (Monitoring, Reporting, Verification) ที่โปร่งใส

2. กลไกคาร์บอนเครดิตประเภทป่าไม้ (REDD+ 2.0) 4

- ชุมชนท้องถิ่นจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากคาร์บอนเครดิต

- ผลักดันและสนับสนุนการใช้ดาวเทียมและ AI เพื่อตรวจสอบพื้นที่ป่า

- เรียกร้องการกำหนดราคาคาร์บอนขั้นต่ำสำหรับคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ 30 - 50 USD/tCO2eq ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายในประเทศไทยราว 4.25 เท่า

โอกาส

ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการเข้าถึงกองทุน NCQG, นำป่าเขตร้อนไปรวมในกลไก Article 6 ของข้อตกลงปารีส และการเชื่อมโยงการค้าคาร์บอนในภูมิภาค ผ่านการมีส่วนร่วมในเครือข่าย

ASEAN Joint Declaration on Climate Action5 ที่จะผลักดัน ASEAN Climate Action Framework 2030 ในการประชุม COP30 ที่จะเป็นผลดีต่ออาเซียนและประเทศไทย

LastUpdate 05/11/2568 15:46:51 โดย : Admin
06-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (6 พ.ย.68) บวก 9.78 จุดดัชนี 1,305.07 จุด

2. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (5 พ.ย.68) บวก 225.76 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลเศรษฐกิจ สดใส

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (5 พ.ย.68) บวก 32.4 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทองเลี่ยงความเสี่ยงฟองสบู่ตลาดหุ้น

4. พยากรณ์อากาศวันนี้ (6 พ.ย.68) ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 20% ภาคกลาง 10% ?พายุคัลแมกี?เคลื่อนเข้าปกคลุม จ.อุบลฯ 7 พ.ย.

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (6 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 61,950 บาท

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (6 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์

8. MTS Gold คาดราคาทองคำรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนเพื่อรอการเลือกทางประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 3,960-3,930 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,000-4,020 เหรียญ

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (6 พ.ย.68) บวก 7.51 จุด ดัชนี 1,302.80 จุด

10. ตลาดหุ้นปิด (5 พ.ย.68) ลบ 3.31 จุด ดัชนี 1,295.29 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (5 พ.ย.68) ลบ 2.67 จุด ดัชนี 1,295.93 จุด

12. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (4 พ.ย.68) ร่วง 251.44 จุด หลังแบงก์ใหญ่เตือนตลาดหุ้นเสี่ยงเข้าสู่ภาวะปรับฐาน 10-20%

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (4 พ.ย.68) ร่วง 53.50 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่าทุบตลาด

15. MTS Gold ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 3,920-3,900 เหรียญ และแนวต้านที่ 3,980-4,000 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 6, 2025, 3:49 pm