กองทุนรวม
บลจ.อีสท์สปริง แนะ 3 กลยุทธ์ลงทุน เพิ่มน้ำหนักเอเชีย - สหรัฐฯ - ธีม IT และสินทรัพย์รายได้มั่นคง


บลจ.อีสท์สปริง เปิด 3 กลยุทธ์การลงทุน แนะเพิ่มน้ำหนักเอเชีย-สหรัฐฯ หลังได้อานิสงส์จากดีลของสหรัฐ-จีน ชูธีม IT จากปัจจัยรายได้เชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน แนวโน้มการเติบโตของยอดขายและกำไรดี และสินทรัพย์รายได้มั่นคง พร้อมชู 5 กองเด่น ES-USBLUECHIP  ES-ASIA  ES-USTECH ES-GTECH ES-GAINCOME จัดพอร์ตลงทุน

 
นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ตลาดการเงินโลกเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น นำโดยพัฒนาการสำคัญของสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้ม “ดีลกันได้” หลังสัญญาณเปิดช่องทางความร่วมมือด้านการค้าและเทคโนโลยี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการปะทะเชิงนโยบายที่อาจสร้างความไม่แน่นอนต่อการลงทุน ซึ่งการผ่อนคลายความตึงเครียดครั้งนี้มีนัยสำคัญ เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนมองว่าความร่วมมือแม้เพียงบางส่วนจะช่วยพยุงภาคการผลิตเทคโนโลยีและสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจและการลงทุนของโลก

ในอีกด้านหนึ่ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เดินหน้าลดดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณหยุดมาตรการดูดซับสภาพคล่องผ่านการลดงบดุล (QT) เร็วกว่าที่ตลาดคาด การเปลี่ยนทิศเช่นนี้สะท้อนว่า ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในระบบเริ่มตึงตัว แต่ในเชิงผลลัพธ์กลับเป็นแรงหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีและตลาดเกิดใหม่
อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมเศรษฐกิจมีความคาดหวังที่ดีขึ้น แต่การเมืองในสหรัฐ ฯ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม หลังรัฐบาลตกอยู่ในภาวะ Government Shutdown ต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งบริการสาธารณะและรายงานข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนที่อาจล่าช้า สร้าง “ความเสี่ยงเชิงข้อมูล” ให้กับทั้งตลาดและธนาคารกลางในระยะสั้น

นอกจากนั้น ปัจจัยการเมืองยังซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกศาลเรียกไต่สวนประเด็นการประกาศตั้งภาษีนำเข้า โดยเฉพาะต่อสินค้าจีน ซึ่งตั้งคำถามว่าการดำเนินนโยบายดังกล่าวอาจผิดกรอบกฎหมายหรือไม่ การไต่สวนครั้งนี้หากมีการตัดสินว่าไม่ผิด นโยบายการค้าอาจแข็งกร้าวยิ่งขึ้น เปิดทางให้เกิดความเสี่ยงผันผวนระลอกใหม่ แม้ในระยะสั้นตลาดยังไม่ตอบสนองเรื่องนี้มากเนื่องจากต้อง “ประเมินสถานการณ์” ในระยะถัดไปของคำตัดสิน

ขณะที่จีนกลับกลายเป็นจุดรวมความหวังของตลาด เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งรัฐบาลเตรียมเปิดตัว แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเน้นกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีภายในประเทศ การยกระดับห่วงโซ่อุปทาน และการเพิ่มบทบาทการบริโภคในประเทศ โดยตลาดตีความว่า แม้จีนต้องการลดการพึ่งพาต่างประเทศ แต่การวางแผนระยะยาวเช่นนี้ช่วยสร้างเสถียรภาพเชิงนโยบาย และตอกย้ำว่า รัฐบาลยังพร้อมใช้นโยบายสนับสนุนด้านการเงิน–การคลังเพื่อรักษาการเติบโต

ขณะที่เศรษฐกิจไทยได้แรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐ ส่งผลให้หน่วยงานเศรษฐกิจปรับประมาณการ GDP ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งการปรับประมาณการดังกล่าวช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยว บริโภค และโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

นายยิ่งยง กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้น บลจ.อีสท์สปริง แนะนำ 1.เพิ่มน้ำหนักเอเชีย–สหรัฐฯ ได้อานิสงส์จากดีลของสหรัฐฯ–จีน  โดยกองทุนที่แนะนำ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP)   เน้นลงทุนในกองทุนหลักกองทุน T. Rowe Price Funds SICAV - US Blue Chip Equity Fund Class I โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  กองทุนหลักลงทุนในหุ้นชั้นดีหรือหุ้นบลูชิพซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและความแข่งแกร่งทางการเงินในประเทศสหรัฐฯ บริหารจัดการโดย T. Rowe Price International Ltd  และกองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Active Equity (ES-ASIA)  เน้นลงทุนในกองทุนหลักกองทุน Schroder International Selection Fund -Emerging Asia Class A2 Acc USD ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมุลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย บริหารจัดการโดย Schroder Investment Management (Europe) S.A

 2. ธีม  IT ที่เป็นหุ้นที่มีรายได้เชิงพาณิชย์ชัดเจน มีแนวโน้มการเติบโตของยอดขายและกำไรที่ดี  มีกองทุนที่แนะนำ 2กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Information Technology (ES-USTECH) เน้นลงทุนในกองทุนหลักกองทุน iShares S&P 500 Information Technology Sector UCITS ETF ในหน่วยลงทุนชนิด Class USD (Acc) บริหารจัดการโดย BlackRock Asset Management Ireland Limited กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 Capped 35/20 Information Technolog และกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Technology (ES-GTECH) เน้นลงทุนในกองทุนหลักกองทุน Polar Capital Funds Plc – Global Technology Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั่วโลก บริหารจัดการโดย Polar Capital Funds public limited company

และ 3. สินทรัพย์ที่รายได้มั่นคง (Quality Income) ยังเหมาะเป็นแกนหลักพอร์ต  โดยแนะนำ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Multi Asset Income (ES-GAINCOME)  เน้นลงทุนผ่านกองทุนหลัก AMUNDI FUNDS  INCOME OPPORTUNITIES บริหารจัดการโดย Amundi Luxembourg S.A. ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักมีการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย (Diversified) ครอบคลุมทั้งหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก และสร้างรายได้ในทุกภาวะตลาด

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนทั้ง 5 กองทุนดังกล่าวนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ในกองทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุนผู้ลงทุนอาจจะได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และอาจไม่ได้รับช่าระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่ก่าหนด หรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีค่าสั่งไว้ กองทุนหลักมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและกระจุกตัวในประเทศ สหรัฐอเมริกาจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจ่านวนมาก
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ย. 2568 เวลา : 12:24:54
11-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (11 พ.ย.68) ลบ 5.79 จุด ดัชนี 1,300.47 จุด

2. ประกาศ กปน.: 12 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบางนา-ตราด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (11 พ.ย.68) ลบ 1.78 จุด ดัชนี 1,304.48 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะมีเป้าหมายการขึ้นถัดไปที่ระดับ 4,240 เหรียญ ก่อนที่จะทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 4,380 เหรียญในลำดับต่อไป ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,070 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,200 เหรียญ

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (11 พ.ย. 68) พุ่งขึ้น 950 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,200 บาท

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (10 พ.ย.68) พุ่ง 381.53 จุด ขานรับความหวังชัตดาวน์ใกล้ยุติ

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 พ.ย.68) พุ่ง 112.2 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. หลังข้อมูลศก.ซบ

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (11 พ.ย.68) บวก 0.34 จุด ดัชนี 1,306.60 จุด

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (11 พ.ย.68) ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน 10%

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45 บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (11 พ.ย.68) ทรงตัว ที่ระดับ 32.35 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (10 พ.ย.68) บวก 3.35 จุด ดัชนี 1,306.26 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (10 พ.ย.68) บวก 3.12 จุด ดัชนี 1,306.03 จุด

14. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50บาท/ดอลลาร์

15. MTS Gold คาดราคาทองคำมีโอกาสสูงที่ราคาจะขึ้นไปแตะระดับเป้าหมายที่บริเวณ 4,100 เหรียญได้ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 3,990 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,080 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 11, 2025, 9:37 pm