หุ้นทอง
"GCAP GOLD" ชี้แนวโน้มทองยังเป็นบวก จับตาท่าทีดอกเบี้ย Fed - เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอหลังชัตดาวน์


 
บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำรอฟื้นตัว แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับ $4,010–$3,990 (ทองไทยราว 61,800–61,500 บาท)  จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หลังภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ และท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต่อสัญญาณนโยบายการเงิน 

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ $4,010 และ $3,990 ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $4,110 (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ $4,185 (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) 

“ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ย เดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ 

ส่วนปัจจัยด้านมาตรการลดและยกเว้นภาษีนำเข้าอาหารกว่า 200 รายการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มองว่า เป็นตัวแปรสำคัญที่ตลาดต้องติดตาม เพราะสะท้อนแรงกดดันค่าครองชีพและเงินเฟ้อในประเทศ แม้ทรัมป์ระบุว่าสินค้าบางรายการอาจยังมีราคาเพิ่มขึ้น แต่เป้าหมายคือช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงราคาสินค้าอาหารยังปรับสูงขึ้น ตลาดจึงต้องรอดูว่ามาตรการนี้จะช่วยชะลอเงินเฟ้อได้จริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือเชิงการเมืองที่ยังไม่เปลี่ยนทิศทางเงินเฟ้อและภารกิจของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 พ.ย. 2568 เวลา : 13:11:19
19-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 พ.ย.68) ลบ 4.20 จุด ดัชนี 1,265.84 จุด

2. ทองนิวยอร์กปิดเมื่ิอคืน (18 พ.ย.68) ลบ 8 เหรียญ จับตาตัวเลขจ้างงานประเมินดอกเบี้ยเฟด

3. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (18 พ.ย.68) ร่วง 498.50 จุด นักลงทุนกังวลฟองสบู่ AI-ผิดหวังผลประกอบการ Home Depot

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50บาท/ดอลลาร์

5. ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง ภาคอีสาน อุณหภูมิลด 2-4 องศา ภาคเหนือ-ภาคกลาง-กรุงเทพปริมณฑล ภาคตะวันออก ลด 1-3 องศา ภาคใต้ ฝน 70-80%

6. MTS Gold คาดราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวต่อไปได้ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,020-4,000 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,100-4,120 เหรียญ

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 พ.ย.68) บวก 1.81 จุด ดัชนี 1,271.85 จุด

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (19 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 63,050 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์

10. ประกาศ กปน.: 20 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระสุเมรุ

11. ตลาดหุ้นปิด (18 พ.ย.68) ลบ 10.03 จุด ดัชนี 1,270.04 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 พ.ย.68) ลบ 10.14 จุด ดัชนี 1,269.93 จุด

13. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ลบ 19.7 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่าฉุดตลาด

14. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ร่วง 557.24 จุด ถูกกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง-จับตาผลประกอบการ Nvidia

15. พยากรณ์อากาศ (18 พ.ย.68) ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง แต่ยังคงมีฝนบางพื้นที่,ภาคอีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศา,ยอดดอย หนาวจัด 4 องศา,ภาคใต้ ฝน 70-80-%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 19, 2025, 5:16 pm