เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Special Report : "ขยายตลาดใหม่" ทางออกสินค้าส่งออกไทย ลดความเสี่ยงภาษีทรัมป์


“จะเอายังไงกันแน่” คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงเลยต่อท่าทีของ โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีต่อประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เคยประกาศไว้ว่าจะระงับการเจรจาเรื่องภาษีกับไทย จากกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทรัมป์ต้องการให้ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพกับกัมพูชา แต่ต่อมาทรัมป์ก็ได้กลับลำส่งข้อความผ่านทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม มาว่า “การเจรจาทางภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้จะไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกดดันไทยให้ปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกับกัมพูชา” การสื่อสารที่กลับไปกลับมาของทรัมป์นี้ นับว่าเป็นการย้ำเตือนถึงอธิปไตยและความมั่นคงของชาติไทยที่ดูเหมือนจะสั่นคลอนได้ทุกเมื่อ หากว่าไทยยังพึ่งพิงสหรัฐด้านการค้าเป็นหลักอยู่แบบนี้
 
แต่ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์จะกลับมาเปลี่ยนใจบีบบังคับไทยเรื่องของภาษีอีกหรือไม่นั้น สำหรับการชั่งน้ำหนักด้านผลประโยชน์ระหว่างกันทั้งทางการค้า การลงทุน และความมั่นคง ยังเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่ไทยยังคงต้องระวังเงื่อนไขแฝง (Hidden Clauses) และการเปลี่ยนท่าทีในอนาคตอยู่ตลอดหากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่การเปลี่ยนแปลงไปจากนี้อีก ซึ่งหนึ่งในทางออกของไทยก็คือ การลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐ หรือจุดอ่อนที่ทรัมป์สามารถใช้ในการบีบบังคับไทยได้ ด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศเพื่อ “เปิดพื้นที่ตลาดส่งออกใหม่ ๆ” อันเป็นการบริหารความเสี่ยงภาคการส่งออกไทยท่ามกลางสภาวะการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
 
โดยทางด้านของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้เข้ารับตำแหน่งเพียง 2 เดือนแรก ก็ได้เดินสายพบผู้แทนของรัฐบาลนานาประเทศ เพื่อเดินหน้าปิดดีลทางการค้า และผลักดันเขตการค้าเสรี FTA ให้มากขึ้น อันเป็นการขยายตลาดให้กับสินค้าไทย โดยช่วงเดือน พ.ย. นี้ นางศุภจีได้เข้าเจรจาลงนามซื้อขายข้าวกับสิงคโปร์แบบรัฐต่อรัฐได้เป็นครั้งแรก มีการหารือกับเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ผลักดันการค้าเสรีไทยอินเดีย ครอบคลุมทุกมิติทั้งสินค้า บริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หารือกับเอกอัครราชทูตรัสเซีย เพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังตลาดรัสเซียเพิ่มขึ้น หารือกับเอกอัครราชทูตสวีเดน ผลักดันเขตการค้าเสรีไทยและสหภาพยุโรป และล่าสุดมีความตั้งใจที่จะเร่งปิดดีลเขตการค้าเสรีกับแคนาดา เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดอเมริกาเหนืออีกด้วย
 
โดย Movement ที่น่าสนใจคือ การที่นางศุภจีได้หารือทวิภาคีกับเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เพื่อจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีภายในปี 2569 นับเป็นกลไกสำคัญในการลดอุปสรรคทางการค้า และลดการพึ่งพาตลาดส่งออกสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ หากไทยสามารถทำข้อตกลงการค้าเสรีกับแคนาดาสำเร็จ ก็จะถือเป็น FTA แรกที่ไทยทำกับประเทศในแถบอเมริกาเหนือ ซึ่งเปิดโอกาสให้ไทย “เข้า”ตลาดใหญ่ในภูมิภาคนี้มากขึ้น โดยแคนาดาจัดเป็นประเทศที่เทคโนโลยีและการลงทุนของไทยสามารถเข้าไปตีตลาดได้ (AI, EV Car, Clean Energy) และไทยเรายังมีโอกาสลดภาษีศุลกากรจากข้อตกลง ทำให้ต้นทุนการส่งออกถูกลง สามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดแคนาดา โดยจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและแปรรูปไทย เช่น อาหารทะเล, ข้าว, และสินค้าแปรรูปอื่น ๆ ให้เติบโตในตลาดแคนาดามากขึ้น ตามที่ภาครัฐของไทยให้ความสำคัญ  
 
ส่วนประเด็นการลงทุนนั้น ในข้อตกลงการค้าเสรี ปกติแล้วมักรวมเงื่อนไขการลงทุน ดังนั้นจึงเอื้อให้นักลงทุนแคนาดาอาจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ส่วนไทยเองในทางกลับกัน ก็อาจสามารถเข้าไปในห่วงโซ่ซัพพลายเชนแคนาดา โดยใช้จุดแข็งของแคนาดาในเทคโนโลยีร่วมกันพัฒนาได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย เพราะข้อตกลงดังกล่าวที่ทำกับแคนาดา จะแสดงให้โลกเห็นว่าไทยกำลังกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในโลกตะวันตก ซึ่งจะเสริมความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนต่างชาติได้

อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงเดินหน้าและยืนยันความพร้อมของไทยต่อการเจรจากับสหรัฐดั่งเดิม เพื่อเร่งสรุปผลการเจรจาให้ได้ตามกรอบเวลาที่วางเอาไว้ ส่วนการเดินหน้าขยายตลาด ที่ไทยมีพันธมิตรทางการค้ามากขึ้น ก็เป็นการช่วยให้ไทยกระจายความเสี่ยง เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจและอธิปไตยของชาติไม่ให้ใครมามีอำนาจบีบบังคับให้ไทยตกเป็นรองได้

LastUpdate 19/11/2568 21:27:26 โดย : Admin
20-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 27 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนลาดหวาย

2. ตลาดหุ้นปิด (20 พ.ย.2568) บวก 9.64 จุด ดัชนี 1,281.81 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 พ.ย.68) บวก 19.25 จุด ดัชนี 1,291.42 จุด

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 พ.ย.68) บวก 16.30 ดอลลาร์ ก่อนเฟดเผยรายงานการประชุม

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 พ.ย.68) บวก 47.03 จุด จับตาผลประกอบการ Nvidia

6. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงมีความผันผวนสูงรอการ Breakout ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,050-4,010 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,100-4,130 เหรียญ

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (20 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย" หนาวจัด 3 องศา "ยอดภู" 6 องศา ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 80%

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 พ.ย. 68) ร่วงลง 500 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 63,400 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 พ.ย.68) บวก 18.34 จุด ดัชนี1,290.51 จุด

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 24 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาชื่น

13. ตลาดหุ้นปิด (19 พ.ย.68) บวก 2.13 จุด ดัชนี 1,272.17 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 พ.ย.68) ลบ 4.20 จุด ดัชนี 1,265.84 จุด

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่ิอคืน (18 พ.ย.68) ลบ 8 เหรียญ จับตาตัวเลขจ้างงานประเมินดอกเบี้ยเฟด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 20, 2025, 8:47 pm