
• มูลค่าส่งออกเดือน ต.ค. เติบโต 5.7%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 19.0%YoY โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ด้านการนำเข้ายังขยายตัวสูงที่ 16.3%YoY ส่งผลให้ดุลการค้ากลับมาขาดดุลที่ 3,436.9 ล้านดอลลาร์ฯ
• Krungthai COMPASS คาดว่าการส่งออกไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 จะชะลอลงตามการส่งออกสินค้าที่โดนเรียกเก็บภาษี หลังพบว่าสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยประคับประคองการส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยคาดว่าการส่งออกในปี 2568 จะขยายตัว 10%
มูลค่าส่งออกเดือน ต.ค. 2568 ขยายตัว 5.7%YoY
มูลค่าส่งออกเดือน ต.ค. อยู่ที่ 28,835.6 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 5.7%YoY หดตัวจาก 19.0%YoY เมื่อเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สำหรับการส่งออกทองคำในเดือนนี้กลับมาหดตัว 76.9%YoY จากที่ขยายตัวในเดือนก่อน ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัวได้ 13.0%YoY (รูปที่ 1) โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก
• การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 8.8%YoY ชะลอลงจาก 26.4%YoY ในเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+67.8%) แผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า(+49.2%) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+21.5%) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+16.3%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ (-13.7%) เม็ดพลาสติก (-6.6%) และเคมีภัณฑ์ (-5.0%) เป็นต้น (รูปที่ 2)
• ในขณะที่ การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 5.1%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยสินค้าเกษตรหดตัว 14.6%YoY หดตัว 3 เดือนติด ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวที่ 6.2%YoY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว (-38.6%) ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง (-35.8%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-19.2%) ยางพารา (-12.5%) ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+168.9%) กุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง (+24.3%)และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ (+8.0%) เป็นต้น
การส่งออกรายตลาดสำคัญ ส่วนใหญ่ยังขยายตัวจากการส่งออกในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ
• สหรัฐฯ: ขยายตัว 32.9%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 25 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และไดโอด และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
• จีน: ขยายตัว 9.3%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ทองแดงและของทำด้วยทองแดง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ด้านสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น
• ญี่ปุ่น: ขยายตัว 1.9%YoY กลับมาขยายตัวจากเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ยางพารา เม็ดพลาสติก เป็นต้น
• EU27: ขยายตัว 9.9%YoYเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ และส่วนประกอบ และยางพารา เป็นต้น
• ASEAN-5: ขยายตัว 5.4%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
• มูลค่าการนำเข้าเดือน ต.ค. อยู่ที่ 32,272.5 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 16.3%YoY ชะลอตัวจาก 17.2%YoY เมื่อเดือนก่อน การนำเข้าสินค้าที่ขยายตัว เช่น สินค้าทุน (+3.1%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป(+43.5%YoY) เป็นต้น ในขณะที่สินค้านำเข้าที่หดตัว เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค (-2.7%YoY) สินค้ายานพาหนะฯ (-1.7%YoY) เป็นต้น ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน ต.ค. ขาดดุล 3,436.9 ล้านดอลลาร์ฯ
Implication:
• อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 ยังจะได้รับแรงส่งจากสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2568 สินค้ากลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มีส่วนกับการขยายตัวของการส่งออกรวม (Contribution to Growth) สูงถึง 5.0% จาก 13.0% (โดย 49% เป็นการส่งออกไปยังสหรัฐฯ) โดยขยายตัวสอดคล้องกับยอดขายเซมิคอนดักเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย1 ซึ่งคิดเป็น 60% ของยอดขายรวม
• Krungthai COMPASS พบว่าในเดือน ต.ค. 2568 การส่งออกสินค้าที่ถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษี Sectoral Tariff และ Reciprocal ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ภายหลังจากมาตรการภาษีทั้งสองประเภทเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2568 เป็นต้นมา อาทิ การส่งออกเคมีภัณฑ์ที่หดตัว -7%YoY ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มองไปข้างหน้า คาดว่าการส่งออกสินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีจะชะลอตัวลงในช่วงโค้งสุดท้ายของปี (รูปที่ 5) ทั่วโลก และมีส่วนกับการขยายตัวของยอดขายรวมทั่วโลก (Contribution to Growth) สูงถึง 7.9% จาก 19.3% ในช่วง 9 เดือนของปี 2568 (รูปที่ 6) มองไปข้างหน้า การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามแรงขับเคลื่อนจากความต้องการชิปที่ใช้ในอุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และ EV เป็นต้น โดยคาดว่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะประคับประคองมูลค่าการส่งออกรวมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
• Krungthai COMPASS ประเมินว่าการส่งออกไทยในปี 2568 จะขยายตัว 10% จากปีก่อน โดยยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงที่จะกดดันการส่งออกไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 ต่อเนื่องไปในปี 2569 นำโดยความเสี่ยงที่ไทยจะถูกเรียกเก็บภาษี Transshipment Tariff หรือเรียกเก็บ Sectoral Tariff เพิ่มเติม ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในระยะข้างหน้า 1 ประเทศหลักในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เวียดนามและไทย เป็นต้น
ก้องภพ วงศ์แก้ว
กฤตตฤณ เหล่าฤทธิ์
Krungthai Compass
ข่าวเด่น