เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
TISCO ESU ชี้เศรษฐกิจไทยเปราะบางหนัก คาดปีหน้า Fast-pass อาจเป็นปัจจัยบวกเดียว


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ชะลอตัว สัญญาณเปราะบางชัดเจนจากแรงกดดันหลายด้าน ทั้งภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเตือนปี 2569 ฟื้นตัวยาก คาดมาตรการ Fast-pass อาจเป็นปัจจัยบวกเดียว พร้อมคาด กนง. เดินหน้าลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

 
นายเมธัส รัตนซ้อน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Methas Rattanasorn, Head of Economics, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2568 ขยายตัวเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ลดลงจาก 2.8% ในไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนการเติบโตที่ซึมลงทั้งในภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร ขณะที่ตัวเลข GDP ปรับฤดูกาลลดลง 0.6% QoQ บ่งชี้ถึงความเปราะบางที่เพิ่มขึ้น
 
โดยแรงกดดันสำคัญในไตรมาสนี้มาจาก การเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ, ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กระทบการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐ รวมถึง ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ลุกลามจนต้องปิดด่านการค้า สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.4% โดยมีแรงหนุนจากการบริโภคเอกชนและการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีนำเข้าจะมีผล ขณะที่รายจ่ายรัฐและการลงทุนภาครัฐฯ รวมถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเป็นปัจจัยกดดันหลัก

“จุดน่าสนใจในไตรมาสนี้ คือการเติบโตที่ไม่สอดคล้องกันระหว่าง ภาคการผลิตในประเทศที่หดตัว 1.6% YoY กับ การส่งออกที่โตแรงกว่า 10.8% YoY แม้ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบายสินค้าคงคลัง แต่ตัวเลขต่าง ๆ ยังสะท้อนว่าไทยแทบจะไม่ได้ประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเลย เพราะส่วนใหญ่เป็นการทำหน้าที่ ประเทศทางผ่าน (Transshipment) ของสินค้าจากต่างประเทศ หากพิจารณาเป็นรายสินค้า โดยเจาะจงไปที่สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ (Tariff-exempted) จะพบว่าไทยขาดดุลการค้าในหมวดนี้ ย้ำชัดว่าผลบวกจากการยกเว้นภาษีไม่ได้ตกถึงเศรษฐกิจไทยแม้แต่น้อย” นายเมธัส กล่าว

สำหรับแนวโน้มทั้งปี 2568 TISCO ESU ประเมินว่า GDP ไทยจะขยายตัวใกล้เคียง 2.0% หากไตรมาสสุดท้ายขยายตัวได้ 0.7% ตามที่ประเมินไว้ โดยรวมผลบวกจากมาตรการรัฐ เช่น คนละครึ่งพลัส, เติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ เที่ยวดีมีคืน แล้ว ส่วนปี 2569 คาด GDP ไทยจะขยายตัวเพียง 1.6% ตามประมาณการเดิม จากแรงกดดันสงครามการค้าและความเสี่ยงปิดด่านชายแดน ที่หากยืดเยื้อต่อไปจะส่งผลกระทบเข้ามาเต็มปี ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังเผชิญการแข่งขันสูง แม้ระยะสั้นจีนจะจำกัดการเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งอาจช่วยดึงนักท่องเที่ยวบางส่วนมายังไทย แต่ประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซียก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ พร้อมได้เปรียบด้านค่าเงิน โดยเฉพาะเวียดนามที่ค่าเงินดองอ่อนลงมาก ทำให้ไทยอาจไม่สามารถพึ่งท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลักได้อีก หากไม่มีการยกเครื่องครั้งใหญ่

ปัจจัยบวกปีหน้า อาจเหลือเพียงเม็ดเงินลงทุนจากมาตรการ Fast-pass หากดึง FDI ได้ตามเป้า นอกเหนือจากการบริโภคเอกชนที่คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ชะลอตัวลงจากปีนี้บ้างก็ตาม ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นความเสี่ยงสำคัญ เพราะกระทบการเบิกจ่ายงบประมาณและการจัดทำงบรายจ่ายประจำปี ซึ่งอาจซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วให้ฟื้นตัวลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีฐาน TISCO ESU คาดว่า หากรัฐบาลคุณอนุทินยุบสภาตาม MoA กับพรรคประชาชนภายใน 31 ม.ค. 2569 กระบวนการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่น่าจะล่าช้าจนส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบปี 2570

สำหรับนโยบายการเงิน TISCO ESU มองว่า ขณะนี้ภาวะการเงินในประเทศยังตึงตัวเกินจำเป็น ขณะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพและยังจะชะลอลงอีกในปีหน้า ประกอบกับเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่อง แม้จะเกิดจากปัจจัยอุปทาน แต่เงินเฟ้อพื้นฐานก็โตต่ำกว่า 1.0% สะท้อนภาวะฝืดเคือง จึงคาดว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.50% เหลือ 1.25% ในการประชุม 17 ธ.ค.นี้ และอาจลดต่อเนื่องเหลือ 1.00% ในรอบแรกปี 2569 (ก.พ.) ซึ่งน่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของวัฏจักรการลดดอกเบี้ยรอบนี้
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 พ.ย. 2568 เวลา : 19:23:41
27-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (27 พ.ย.68) บวก 0.05 จุด ดัชนี 1,261.23 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ลงซื้อ-ขึ้นขาย ในรูปแบบ "Sideways" แนวรับที่ 4,130-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,180-4,200 เหรียญ

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (26 พ.ย.68) บวก 25 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทองต่อเนื่อง รับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (26 พ.ย.68) บวก 314.67 จุด รับหุ้นเทคฯฟื้น-คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. พยากรณ์อากาศ (27 พ.ย.68) ทั่วไทยอากาศเย็นลง อุุณหภูมิลดลง 1-2 องศา เว้นภาคอีสาน ลด 2-4 องศา "ยอดดอย" 3 องศา, ภาคใต้ฝนลดลง ตก 40%

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (27 พ.ย. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (27 พ.ย.68) บวก 2.73 จุด ดัชนี 1,263.91 จุด

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.35 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (27 พ.ย.68) ทรงตัวที่ระดับ 32.22 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 พ.ย.68) ลบ 1.96 จุดดัชนี 1,266.82 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,120-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,190-4,220 เหรียญ

12. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

13. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 พ.ย.68) บวก 5.32 จุด ดัชนี 1,274.10 จุด

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.28 บาทต่อดอลลาร์

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (25 พ.ย.68) พุ่ง 45.8 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้าหลังข้อมูลศก.อ่อนแอลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2025, 5:15 pm