เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Special Report : "วิกฤตน้ำท่วมไทย" จ้างงานลด - กระทบภาคเกษตร ฉุดเศรษฐกิจ 2.9 หมื่นล้านบาท


 

“วิกฤตน้ำท่วม” ที่เกิดขึ้นในภาคใต้และบางจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย กำลังสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยอย่างหนักหน่วง เนื่องจากมหาอุทกภัยในครั้งนี้มีความรุนแรงผิดปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ ที่มีปริมาณฝนตกหนักสุดในรอบ 300 ปีเลยทีเดียว ประกอบกับการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐในปีนี้ที่อาจจะยังต่ำกว่ามาตรฐานด้วยแล้วนั้น ทำให้มาตรการป้องกันและการเข้าช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งซ้ำเติมความเสียหายในภาพใหญ่ทั้งภาคเกษตรและการจ้างงาน ที่มีโอกาสกระทบต่อภาคเศรษฐกิจหนักสุดถึง 2.9 หมื่นล้านบาท
 
เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2568 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ก็ได้ออกมาเตือนถึง “ปรากฏการณ์ลานีญา” ที่ส่งผลต่อสภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวน โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย ที่มีแนวโน้มของการเกิดสภาพอากาศที่เย็นกว่าปกติและการเกิดฝนตกหนัก อันเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำท่วม แต่ถึงกระนั้นแล้ว ประเทศไทยก็ยังเกิดน้ำท่วมหนักครบทุกภาค ไล่ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน จวบจนลงมาถึงทางภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่วิกฤตหนักสุด ที่ภัยทางน้ำได้เข้าสร้างความเสียหายครบ 10 จังหวัด หรือกว่า 7.9 แสนครัวเรือน ผู้คนต่างอพยพหนีตาย จนเริ่มมีคนเสียชีวิตจริงแล้ว
 
โดยในมุมมองของเศรษฐกิจ วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ ส่งผลโดยตรงต่อภาคการเกษตร นับตั้งแต่การแปรปรวนของสภาพอากาศที่กระทบกับผลผลิต และการจ้างงาน ซึ่งทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ได้เปิดเผยรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 3 ปี 2568  พบว่าสถานการณ์แรงงานมีการหดตัวลง โดยในไตรมาสดังกล่าว ผู้มีงานทำมีจำนวนทั้งสิ้น 39.9 ล้านคน ลดลง 0.5 % จากช่วงเดียวกันของปี 2567 เนื่องจากการจ้างงานในภาคเกษตรกรรมกินสัดส่วนในการหดตัวลงไป 2.9% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาส 7 จากทั้งสาเหตุแรงงานรุ่นใหม่ไม่นิยมประกอบอาชีพด้านการเกษตร และผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบัน (เพราะต้องชะลอการเพาะปลูก และได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม) ที่ได้สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรเกือบ 2 แสนราย หรือคิดเป็นพื้นที่การเกษตรกว่า 6.2 แสนไร่ 
 
ซึ่งผลกระทบต่อมาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือสภาวะของหนี้ครัวเรือน จากปัจจุบันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงมากกว่า 80% ต่อ GDP โดยในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลที่ค้างชำระเกิน 90 วันขึ้นไปหรือหนี้เสีย NPL พิจารณาจากข้อมูลเครดิตบูโร มีมูลค่าอยู่ที่ 1.24 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อสินเชื่อรวม 9.11% เพิ่มขึ้นจาก 8.78% โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในทุกประเภทสินเชื่อ ดังนั้นประเด็นที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ อาจเป็นการควบคุมระดับราคาสินค้าเพื่อรักษาความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนที่กำลังได้รับผลกระทบ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าจำเป็น การเร่งมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงการพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อเข้าพยุงการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
 
โดยทาง สภาพัฒน์ฯ ได้ประเมินผลกระทบต่ออุทกภัยครั้งนี้ว่า หากเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อย จะกระทบ 0.1% ต่อ GDP หรือราว 16,000 ล้านบาท ส่วนในระดับกลาง จะกระทบ 0.13% ต่อ GDP หรือราว 23,000 ล้านบาท และหากกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วงที่สุด จะกระทบราว 0.16% ต่อ GDP หรือราว 29,000 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของภาครัฐว่าจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่ทั้งนี้ จากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ที่ยังคงรุนแรงนี้ เบื้องต้นประเมินว่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาทต่อวัน เพราะหลายจังหวัดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ขึ้นตรงกับการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนของภาคใต้เป็นหลัก

LastUpdate 26/11/2568 23:42:10 โดย : Admin
27-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (27 พ.ย.68) บวก 0.05 จุด ดัชนี 1,261.23 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ลงซื้อ-ขึ้นขาย ในรูปแบบ "Sideways" แนวรับที่ 4,130-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,180-4,200 เหรียญ

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (26 พ.ย.68) บวก 25 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทองต่อเนื่อง รับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (26 พ.ย.68) บวก 314.67 จุด รับหุ้นเทคฯฟื้น-คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. พยากรณ์อากาศ (27 พ.ย.68) ทั่วไทยอากาศเย็นลง อุุณหภูมิลดลง 1-2 องศา เว้นภาคอีสาน ลด 2-4 องศา "ยอดดอย" 3 องศา, ภาคใต้ฝนลดลง ตก 40%

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (27 พ.ย. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (27 พ.ย.68) บวก 2.73 จุด ดัชนี 1,263.91 จุด

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.35 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (27 พ.ย.68) ทรงตัวที่ระดับ 32.22 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 พ.ย.68) ลบ 1.96 จุดดัชนี 1,266.82 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,120-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,190-4,220 เหรียญ

12. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

13. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 พ.ย.68) บวก 5.32 จุด ดัชนี 1,274.10 จุด

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.28 บาทต่อดอลลาร์

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (25 พ.ย.68) พุ่ง 45.8 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้าหลังข้อมูลศก.อ่อนแอลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2025, 5:15 pm