แบงก์-นอนแบงก์
แสนสิริ ผนึก ธนาคารกรุงเทพ เสริมแกร่งพอร์ตธุรกิจ จับมือสนับสนุนทางการเงิน 3 โครงการใหม่ ทำเลศักยภาพกรุงเทพฯ - ภูเก็ต ตอบรับทุกเซกเม้นต์


 

แสนสิริชูความแข็งแกร่งทางการเงิน ประกาศความร่วมมือธนาคารกรุงเทพฯ สนับสนุนทางการเงิน พัฒนา 3 โครงการทำเลศักยภาพสูง กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภูเก็ต ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว รองรับความต้องการลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ 

 
นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย กล่าวว่า แสนสิริมีแผนพัฒนาโครงการบนทำเลศักยภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งกลุ่มลูกค้าไทยและชาวต่างชาติ พร้อมเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง  โดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านการเงินที่ได้รับความเชื่อมั่นและสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ สถาบันการเงินชั้นนำของไทย  ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและลูกค้าของแสนสิริเป็นอย่างดี โดยล่าสุดธนาคารกรุงเทพได้ร่วมสนับสนุนทางการเงินในการพัฒนาโครงการใน 3 ทำเลศักยภาพ มูลค่ารวมกว่า 3,200 ล้านบาท 

 
“แสนสิริขอบคุณธนาคารกรุงเทพ ที่ให้ความเชื่อมั่นในฐานะพันธมิตรธุรกิจที่แข็งแกร่งและให้การสนับสนุนทางการเงินซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของแสนสิริ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มศักยภาพการพัฒนาโครงการและการบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีเสถียรภาพ แต่ยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์แสนสิริ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าแสนสิริที่มีอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด นับเป็นหนึ่งในความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพของแสนสิริ” นายวิชาญ กล่าว

 
นางสาวพรรณดา วิลยาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ พร้อมให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สามารถตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าในทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี ภายใต้แนวคิดที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา  สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน ผ่าน 4 แกนหลัก ไทม์เลสดีไซน์, คุณภาพและบริการอย่างไม่มีวันสิ้นสุด, คอมมูนิตี้การอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และมุ่งสร้างความยั่งยืน พร้อมแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงเทพ ที่มุ่งสนับสนุนด้านการเงินเพื่อให้ลูกค้าเติบโตสอดคล้องกับกระแสโลก และมีผลประกอบการที่ยั่งยืน

 
“ธนาคารกรุงเทพ มีความยินดีที่ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินให้แสนสิริ ในการเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะใน 3 โครงการเด่น บนทำเลศักยภาพในครั้งนี้ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมเดอะ เบส รัชดา 19 , ดีคอนโด โคฟ ภูเก็ต และบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ ทำเลรัตนาธิเบศร์ ภายใต้แนวคิดที่มุ่งถ่ายทอดปรัชญาการสร้างบ้านที่มากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งด้านดีไซน์ และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ การดูแลหลังการขาย การสร้างสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดี ไปจนถึงแนวทางธุรกิจที่ตอบรับเทรนด์กลุ่ม Pet Parent และ คอมมูนิตี้สีเขียวอย่างยั่งยืน”  นางสาวพรรณดา กล่าว

 
สำหรับโครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากธนาคารกรุงเทพ ได้แก่ “ดีคอนโด โคฟ” คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 862 ยูนิต จอดรถได้ถึง 45%  เริ่มต้น 24 – 50  ตารางเมตร  บนพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ 2 ไร่* ประกอบด้วย Facility ครบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทั้งคนไทยและต่างชาติ ทำเลดีที่สุด เชื่อมต่อหาดป่าตองและย่านเมืองเก่า มียูนิต เลย์เอาท์ พิเศษ ราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท “ดีคอนโด โคฟ” ได้รับการตอบรับที่ดีหลังเปิดพรีเซลล์ต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมียอดขายแล้วกว่า 60% 

เดอะ เบส รัชดา 19 คอนโดใหม่ใจกลางย่านรัชดา จุดเชื่อมต่อ 3 ถนนหลักสำคัญ - ลาดพร้าว รังสิต และพระราม 9 เดินทางสะดวกมีซอยทะลุเลี่ยงรถติดเข้า-ออกได้หลายทาง ทั้งซอยรัชดาภิเษก 19, ซอยวิภาดีรังสิต 16 และ 20, ซอยลาดพร้าว 18 20 และ 26 ใกล้ MRT รัชดาภิเษก เพียง 750 เมตร* ใกล้ศูนย์การค้าชั้นนำ 5 นาทีถึง เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์ และ 6 นาทีถึง เดอะ สตรีท รัชดา* คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ และแยกตึกที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ออกมา (ตึก B) ส่วนกลางใหญ่กว่า 2,900 ตร.ม. พร้อม Clubhouse 3 ชั้นและ Facilities ครบครันทั้ง Creative Hub, Social Lounge, Playroom, Gym, Swimming Pool, Lively Yard, Pet Playground เริ่มต้น 2.49 ล้าน* ล่าสุดมียอดขายแล้วกว่า 30% พร้อมเตรียมเปิดตัวอีกหนึ่งโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ ย่านรัตนาธิเบศร์ ตามแผนธุรกิจ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 พ.ย. 2568 เวลา : 13:58:26
28-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (27 พ.ย.68) ลบ 8.47 จุด ดัชนี 1,252.71 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (27 พ.ย.68) บวก 0.05 จุด ดัชนี 1,261.23 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ลงซื้อ-ขึ้นขาย ในรูปแบบ "Sideways" แนวรับที่ 4,130-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,180-4,200 เหรียญ

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (26 พ.ย.68) บวก 25 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทองต่อเนื่อง รับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (26 พ.ย.68) บวก 314.67 จุด รับหุ้นเทคฯฟื้น-คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

6. พยากรณ์อากาศ (27 พ.ย.68) ทั่วไทยอากาศเย็นลง อุุณหภูมิลดลง 1-2 องศา เว้นภาคอีสาน ลด 2-4 องศา "ยอดดอย" 3 องศา, ภาคใต้ฝนลดลง ตก 40%

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (27 พ.ย. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (27 พ.ย.68) บวก 2.73 จุด ดัชนี 1,263.91 จุด

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.35 บาท/ดอลลาร์

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (27 พ.ย.68) ทรงตัวที่ระดับ 32.22 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 พ.ย.68) ลบ 1.96 จุดดัชนี 1,266.82 จุด

12. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,120-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,190-4,220 เหรียญ

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

14. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 พ.ย.68) บวก 5.32 จุด ดัชนี 1,274.10 จุด

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.28 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2025, 4:53 am