เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Krungthai CIO ชี้เฟดใกล้จุดเปลี่ยนดอกเบี้ย เปิด 3 ฉากทัศน์รับความผันผวน แนะพอร์ตยืดหยุ่น-เพิ่มหุ้นมั่นคง-ถือทอง เสริมเสถียรภาพ


Krungthai CIO ประเมินท่าทีเฟดก่อนประชุม 10 ธ.ค. 68 ชี้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ "ใกล้ถึงจุดเปลี่ยน" อาจกดดันตลาดระยะสั้น พร้อมจำลอง 3 ฉากทัศน์ผลกระทบต่อตลาดเงิน-ตลาดทุน แนะนักลงทุนจัดพอร์ตแบบยืดหยุ่น เน้นสมดุลหุ้นเติบโต-หุ้นมั่นคง และเพิ่มสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ เพื่อรับมือความผันผวนระดับสูง

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office)  วิเคราะห์ตลาดและการลงทุน ประจำเดือนธันวาคม 2568 ว่า ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งจะมีการเผยแพร่ Dot Plot ชุดใหม่ สะท้อนทิศทางดอกเบี้ยปีหน้า ขณะที่ตลาดคาดโอกาสการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมมากกว่า 80% หลังประธานเฟดสาขานิวยอร์ก John Williams ส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลาย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเฟดหลายรายยังแสดงท่าทีไม่ชัดเจน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่จำเป็นต่อการประเมินยังไม่ครบถ้วน จากผลของการชัตดาวน์ภาครัฐที่ยืดเยื้อในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต้องติดตามความไม่แน่นอนอย่างใกล้ชิด

Krungthai CIO ประเมิน 3 ฉากทัศน์ประชุมเฟด ดังนี้ 

ฉากทัศน์ที่ 1 คาดเฟดจะ “ลดดอกเบี้ย” ในเดือนธันวาคม และลดต่อเนื่องในปี 2026 ขณะที่ Dot Plot น่าจะคงระดับ Terminal Rate ไว้ราว 3.0% หากเป็นไปตามนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัว ผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงเล็กน้อย และตลาดหุ้นอาจไม่ได้รับแรงหนุนมากนัก เนื่องจากเป็นภาพที่ตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว

ฉากทัศน์ที่ 2 เฟด “เลื่อน” การลดดอกเบี้ยออกไป เป็นเดือนมกราคม 2026 แม้ Dot Plot จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตลาดอาจตีความเชิงเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่ากดดันเงินบาทให้อ่อนลงราว 0.15-0.20 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯ มีโอกาสขยับขึ้นอีก 0.10-0.15%  และอาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น

ฉากทัศน์ที่ 3 เฟดส่งสัญญาณคุมเข้มผ่าน Dot Plot พร้อมปรับเพิ่ม Terminal Rate ให้สูงกว่า 3.0% ซึ่งจะหนุนดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าอย่างชัดเจน กดดันให้เงินบาทอ่อนลง 0.30-0.50 บาทต่อดอลลาร์ Bond Yield มีโอกาสพุ่งขึ้น 0.30-0.50%  และตลาดหุ้นอาจเผชิญแรงขาย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย เช่น กลุ่มเทคโนโลยีที่เสี่ยงต่อการปรับฐานมากที่สุด ซึ่งความไม่แน่นอนของผลประชุมเฟด นักลงทุนอาจเผชิญความผันผวนของตลาด และหากผลประชุมออกมาไม่ตรงกับฉากทัศน์ฐาน ตลาดอาจเกิดแรงขายทำกำไรได้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Krungthai CIO แนะกลยุทธ์การลงทุนแบบยืดหยุ่น มองว่า ตลาดกำลังปรับสมดุลระหว่างหุ้นเติบโตกับหุ้นกลุ่มมั่นคง (Defensive) จึงเหมาะกับการจัดพอร์ตแบบ “Barbell” ที่เน้นทั้งสองฝั่งพร้อมกัน

• หุ้นเติบโต ได้แรงหนุนจากเมกะเทรนด์ด้าน AI แม้กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงจะเผชิญการแข่งขันรุนแรง
• หุ้นกลุ่มมั่นคง อย่าง Healthcare มีแนวโน้มกำไรที่มั่นคง แรงกดดันด้านกฎระเบียบลดลง และระดับ Valuation ต่ำกว่ากลุ่มอื่น

นอกจากนี้ ยังมองบวกต่อหุ้น เกาหลีใต้ จากวัฏจักรขาขึ้นของชิปหน่วยความจำที่ได้รับแรงสนับสนุนจากดีมานด์ AI จนถึงปี 2027 และ ตลาดอินเดีย ที่ยังมีศักยภาพเติบโตสูง แม้มีประเด็นภาษีนำเข้า ส่วน ยุโรป หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับอานิสงส์จากการสิ้นสุดวัฏจักรลดดอกเบี้ยของ ECB ช่วยผ่อนแรงกดดันต่อส่วนต่างอัตรากำไรดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)

ในช่วงความไม่แน่นอนสูง Krungthai CIO แนะนำ กองทุนผสม พร้อมกระจายความเสี่ยงไปยัง สินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ และ REIT ไทย เพื่อเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพของพอร์ตในระยะถัดไป
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ธ.ค. 2568 เวลา : 19:09:21
04-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 ธ.ค.68) ลบ 1.05 จุด ดัชนี 1,273.77 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ธ.ค.68) ลบ 1.62 จุดดัชนี 1,273.20 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 ธ.ค.68) บวก 5.60 จุด ดัชนี 1,280.42 จุด

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,400 บาท

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.90 บาทต่อดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) บวก 11.70 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยหลังจ้างงานอ่อนแอ

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) พุ่ง 408.44 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลงหนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองในภาคอีสาน-ภาคตะวันออก-ภาคใต้

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

10. MTS Gold คาดราคาทองคำในระยะสั้นกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ (Sideway) ระหว่าง 4,190 ถึง 4,235 เหรียญ

11. ตลาดหุ้นปิด (3 ธ.ค.68) ลบ 2.76 จุด ดัชนี 1,274.82 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 ธ.ค.68) ลบ 2.24 จุดดัชนี 1,275.34 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำได้กลับเข้าสู่สภาวะทรงตัว ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,190-4,170 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,270 เหรียญ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ธ.ค.68) ร่วง 54 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนแห่ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งติดต่อกัน 6 วัน

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (3 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 4, 2025, 5:30 pm