เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Krungthai COMPASS คาด "อัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ย. 68 อยู่ที่ -0.49% คาดเงินเฟ้อไทยใน 1Q69 อยู่ในระดับต่ำตามทิศทางราคาน้ำมัน และมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ"


 
• อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน พ.ย. 68 อยู่ที่ -0.49% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ตามราคาพลังงานและราคาสินค้าในหมวดอาหารสด โดยเฉพาะผักและผลไม้สดที่ลดต่ำลงกว่าปีก่อน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.66% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 0.61% 
 
• Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 1Q69 จะยังอยู่ในระดับต่ำ ตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลง และ มาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐเป็นหลัก ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอลงจากปี 2568 และแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาทและการไหลบ่าของสินค้านำเข้าราคาถูกจะกดดันให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำต่อไปในปี 2569 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย. 68 ติดลบ 0.49% จากราคาพลังงานและสินค้าหมวดอาหารสดที่ปรับตัวลงเป็นสำคัญ

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย. อยู่ที่ -0.49% ติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนที่ -0.76% โดยถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 (รูปที่ 1) ติดลบน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ -0.60%1 ปัจจัยหลักยังคงมาจากระดับราคาสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มผักและผลไม้สดที่ปรับลด -0.45% จากปริมาณผลผลิตในตลาดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาพลังงานลดลง -6.11% (รูปที่ 2) ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก หลังจากกลุ่ม OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือน เม.ย. 68
 
 
โดยหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลง 1.13% ในขณะที่ระดับราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปรับเพิ่มขึ้น 0.54% กลุ่มที่ระดับราคาปรับลดลง เช่น กลุ่มผักสดและผลไม้สด และหมวดเคหสถาน เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มที่ระดับราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น เช่น หมวดอาหารสำเร็จรูป ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง เป็นต้น
 
เมื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงเทียบรายเดือน ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.15% จากเดือน ต.ค. โดยปรับเพิ่มทั้งสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (เพิ่มขึ้น 0.28%) และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม (เพิ่มขึ้น 0.06%) ทั้งนี้หมวดที่ระดับราคาปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (สูงขึ้น 0.20%) จากการสูงขึ้นของราคาอาหารโทรสั่ง (Delivery) และหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร (สูงขึ้น 0.03%) จากการสูงขึ้นของราคาค่าโดยสารเครื่องบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ และค่าโดยสารรถไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนหมวดที่ระดับราคาปรับลง ได้แก่ กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ลดลง 0.94%) จากการลดลงของราคาข้าวสาร และหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า (ลดลง 0.17%) จากการลดลงของราคาเสื้อผ้าบุรุษและสตรี เป็นต้น
 
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ 0.66% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 0.61% หากพิจารณาการเปลี่ยนแปลงเทียบรายเดือน พบว่าดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.14% 
 
1 อ้างอิงจาก Reuter Polls (as of Dec 2025)
 
Implication: 
 
• อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อน2 สะท้อนอุปสงค์ภายในประเทศที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี สอดคล้องกับดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) เดือน ต.ค. 68 ที่ปรับสูงขึ้น 4.13%YoY (จาก 3.82%YoY เมื่อเดือนที่ผ่านมา) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือน พ.ย. 68 ที่แตะระดับ 51.8 ปรับสูงขึ้นจาก 50.9 ในเดือนก่อนหน้า และยืนเหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แสดงถึงความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อย (รูปที่ 3)
 
 
• อย่างไรก็ดี ปัจจัยด้านอุปทานยังฉุดเงินเฟ้อ โดยเฉพาะราคาพลังงานที่ปรับลดลง (รูปที่ 4) เนื่องจากปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ในปี 68 ประกอบกับตลาดการเงินโลกเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากมาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายทั้งการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงสิ้นปี 68 
 
• มองไปข้างหน้า Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อช่วง 1Q69 จะยังอยู่ในระดับต่ำตาม 1) ทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง โดยช่วง 1Q69 ความต้องการน้ำมันจะลดลงตามฤดูกาล จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะชะลอลงจากช่วงสิ้นปี ในขณะที่ปริมาณการผลิตอยู่ในระดับสูง และ 2) มาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐ ซึ่งจะมีการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 69 ลงเหลือ 3.88 บาท/หน่วย (หรือลดลง 6.51% จากปีก่อน)
 
• เมื่อพิจารณาทั้งปี Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปในปี 2569 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอลงจากปี 2568 อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาทและการไหลบ่าของสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ โดยเห็นสัญญาณว่าระดับราคาสินค้านำเข้าประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง3 

2 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีน้ำหนักกว่า 69.99% ของตะกร้าเงินเฟ้อในปี 2567
3 ดัชนีราคาสินค้านำเข้าประเภทอุปโภคบริโภคเดือน ต.ค. 68 อยู่ที่ 6.78%YoY ปรับตัวลงจาก 7.15% เทียบเดือนที่ผ่านและชะลอลงต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกัน
 
ก้องภพ  วงศ์แก้ว
กฤตตฤณ เหล่าฤทธิ์
Krungthai Compass

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ธ.ค. 2568 เวลา : 16:04:39
04-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 ธ.ค.68) ลบ 1.05 จุด ดัชนี 1,273.77 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ธ.ค.68) ลบ 1.62 จุดดัชนี 1,273.20 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 ธ.ค.68) บวก 5.60 จุด ดัชนี 1,280.42 จุด

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,400 บาท

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.90 บาทต่อดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) บวก 11.70 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยหลังจ้างงานอ่อนแอ

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) พุ่ง 408.44 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลงหนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองในภาคอีสาน-ภาคตะวันออก-ภาคใต้

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

10. MTS Gold คาดราคาทองคำในระยะสั้นกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ (Sideway) ระหว่าง 4,190 ถึง 4,235 เหรียญ

11. ตลาดหุ้นปิด (3 ธ.ค.68) ลบ 2.76 จุด ดัชนี 1,274.82 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 ธ.ค.68) ลบ 2.24 จุดดัชนี 1,275.34 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำได้กลับเข้าสู่สภาวะทรงตัว ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,190-4,170 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,270 เหรียญ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ธ.ค.68) ร่วง 54 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนแห่ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งติดต่อกัน 6 วัน

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (3 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 4, 2025, 5:30 pm