(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงจับตาผลการเจรจาสันติภาพครั้งล่าสุดเพื่อยุติสงครามระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯ และยูเครน ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนหลังยูเครนยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ยูเครนยังคงโจมตีโรงกลั่นและท่าขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซีย
(+/-) รายงานล่าสุดเผยว่าการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในเดือน พ.ย. 68 ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 29.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นภายหลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติชะลอการปรับเพิ่มกำลังผลิตในช่วงไตรมาสที่ 1/69 หลังกลุ่มโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นมาราว 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นราว 2.7% ของอุปทานน้ำมันดิบโลก นับตั้งแต่เดือน เม.ย. - ธ.ค. 68
(-) ขณะที่ซาอุดิอาระเบียประกาศปรับลดส่วนต่างราคาน้ำมันดิบ Arab Light กับค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบดูไบและโอมานซึ่งส่งมอบลูกค้าเอเชีย ในเดือน ธ.ค. 68 มาอยู่ที่ระดับ 0.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 64
(+) ดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 2.8% ซึ่งเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ล่าสุดนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 9-10 ธ.ค. 68 นี้ เฟดจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% มาอยู่ที่ 3.5-3.75%
ข่าวเด่น