เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ติดตามชายแดน - วันเลือกตั้ง"


คาดตลาดไซด์เวย์/พักตัว สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังร้อนแรง และกกต.คาดว่าจะมีการประกาศวันเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้หลังการประชุม ติดตามการประชุม กนง. พุธนี้ตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ย ส่วนการประชุม BOJ ตลาดคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะทำให้มีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงบางส่วน ทางเทคนิค หากยังแกว่งในกรอบตลาดไม่ควรหลุดแนวรับ 1250 อีก หากหลุดต่ำกว่ามีแนวรับถัดไปที่ 1243/1230 การปรับตัวขึ้นมีแนวต้าน 1263/1270 ที่จะทำให้ชะลอตัว

ประเด็นสำคัญ

• วันนี้ติดตามการหารือระหว่างรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย และ กกต. เกี่ยวกับกำหนดการเลือกตั้ง ซึ่งจะอยู่ระหว่างช่วง 45-60 วันหลังออก พ.ร.ฎ. ยุบสภา และการดำเนินมาตรการกระตุ้น ศก. เช่น “คนละครึ่งพลัส” เฟสสองว่าจะอนุมัติให้ทำได้หรือไม่

• กองทัพเรือประเมินยังไม่มีคำสั่ง “ปิดอ่าวไทย” เป็นเพียงข้อเสนอให้ สมช. พิจารณา 3 มาตรการประชุมวันนี้ ได้แก่ ระงับส่งออกน้ำมันและยุทธปัจจัยไปกัมพูชา เพิ่มการควบคุมเฝ้าระวังเรือ และประกาศพื้นที่เสี่ยงภัยรอบท่าเรือกัมพูชา เพื่อเตือนการเดินเรือ ไม่ใช่ปิดน่านน้ำ

• นายกฯ ยืนยันมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน และช่วงเวลาที่เหลือ คือ ช่วงก่อนการเลือกตั้งและการจัดตั้ง ครม. ใหม่ที่คาดว่าจะใช้เวลาอีก 1 เดือน รัฐบาลรักษาการคงเดินหน้าทำงานต่อ

• โฆษกรัฐบาลเผยรัฐบาลได้รับสัญญาณที่ชัดเจนจาก USTR ถึงความพร้อมในการเดินหน้าเจรจาการค้ากับไทย แม้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจะคงดำเนินต่อ โดยจะยึดประโยชน์ร่วมกันของสองชาติและจะเสนอแยกประเด็นทางการค้ากับประเด็นความมั่นคง
• คกก. พัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เผยว่าจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นการลงทุนในปี 2569 ซึ่งจะครอบคลุมการใช้กองทุนการลงทุนของรัฐ, การเพิ่มขนาดการลงทุนของงบส่วนกลาง และการใช้เครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ

• เกาหลีใต้เผยมูลค่าส่งออกสินค้า ICT ใน พ.ย. 2568 ที่ 2.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโต 24.3%YoY ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุนจากความต้องการชิปที่เติบโต 38.6% โดยเฉพาะหน่วยความจำ DDR5 และ HBM ซึ่งถูกนำไปใช้ใน Chipset สำหรับ Generative AI

กลยุทธ์การลงทุน
 
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BoJ (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%), ECB และ BoE (ตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยนโยบาย) รวมถึง กนง. (ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ย 25bps สู่ 1.25%) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ย., PCE ต.ค. และตัวเลขภาคแรงงาน พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามไทม์ไลน์การประกาศวันเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังมีการประกาศยุบสภา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสปรับลงจากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทยและขาดมาตรการกระตุ้นใหม่ อีกทั้งรอติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform แนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ และปีหน้า 2 ครั้งในปี 2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ sentiment บวกระยะสั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสัปดาห์นี้ แนะนำ AP GULF GPSC MTC SAWAD 2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT BJC) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ และ 3) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี

Special Report : Yearbook 2026 ซึ่งมาด้วยแนวคิด “Riding the Wild Horse” เพื่อสื่อถึงมุมมองการลงทุนที่คาดจะยังให้ผลตอบแทนได้แต่มีความผันผวนสูง จึงต้องคัดสรรและกระจายการลงทุนมากขึ้น พร้อม 8 หุ้น Top Picks ในตลาดหุ้นไทยที่คัดสรรมาให้ (อ่านเพิ่มได้ในบทวิเคราะห์ซึ่งออกเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2568)

Daily Top Picks

CPALL: ปัจจัยกระตุ้นจากเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบ ศก. ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งและคาดจะเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต YoY ใน 4Q68 จากยอดขาย CVS แข็งแกร่ง และมาร์จิ้น CVS กว้างขึ้น และได้ประโยชน์จากการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ ธ.ค. นี้เป็นต้นไป เป้าหมายระยะสั้น 44.50 บาท

TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้น รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q68 และคาดจำนวนผู้ใช้รายใหม่สุทธิจะเป็นบวกใน 4Q68 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนหลังการประมูลคลื่นความถี่หนุน เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.50 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ธ.ค. 2568 เวลา : 12:42:42
16-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 15 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระสุเมรุ

2. ตลาดหุ้นปิด(15 ธ.ค.2568) บวก 19.30 จุด ดัชนี 1,273.40 จุด

3. การประปานครหลวง เรื่อง กปน. แจ้งปิดช่องทางการจราจรชั่วคราว บริเวณถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4

4. ทีทีบี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ แข็งค่าต่อเนื่องหลังเฟดลดดอกเบี้ยต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากกว่าคาด

5. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (15 ธ.ค.68) บวก 3.45 จุด ดัชนี 1,257.55 จุด

6. MTS Gold คาดราคาทองคำได้แสดงสัญญาณ Breakout ที่ชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,300-4,280 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

7. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 31.40-32.00 จับตากนง.ลดดอกเบี้ย

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (15 ธ.ค.68) ประเทศไทยอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา,ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 30-40%

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (15 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,300 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (15 ธ.ค.68) ลบ 4.38 จุด ดัชนี 1,249.72 จุด

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.45-31.70 บาท/ดอลลาร์

12. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (15 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.55 บาทต่อดอลลาร์

13. ตลาดหุ้นปิด (12 ธ.ค.68) บวก 0.56 จุด ดัชนี 1,254.10 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำเข้าสู่รูปแบบ "Sideway Up" ขณะที่วันนี้ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,250-4,230 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,300-4,320 เหรียญ

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 ธ.ค.68) บวก 0.29 จุด ดัชนี 1,253.83 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 16, 2025, 10:18 am