เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ติดตามแรงซื้อก่อนสิ้นปี"


คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/รีบาวด์ คาดปริมาณการซื้อ-ขายยังเบาบางต่อ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดีขึ้นหลังประกาศหยุดยิง 72 ชั่วโมง ในขณะที่มาตรการคุมบาทแข็งของธปท.ช่วยชะลอการแข็งค่าช่วงสั้นบ้าง โดยแรงซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีและ Window Dressing ยังเป็นความหวัง และสถิติ 5 ปีที่ผ่านมาชี้ว่าผลตอบแทน SET ในสัปดาห์แรกของต้นปีให้ผลตอบแทนเป็นบวก ทางเทคนิค หากพักสั้นเพื่อขึ้นไม่ควรหลุดต่ำกว่า 1260-1257 อีกแล้ว มีแนวต้านที่ 1270/1275

ประเด็นสำคัญ

• ธปท. สั่งให้ธนาคารเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่โอนเข้ามาตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์ขึ้นไป พร้อมรายงานแหล่งที่มาและวัตถุประสงค์ เพื่อสกัดแรงเงินทุนไหลเข้าและบาทแข็งค่า โดยมีผลตั้งแต่ 29 ธ.ค. เป็นต้นไป

• ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ลดลงมากกว่า 2% จากความกังวลอุปทานล้นตลาด หลัง IEA คาดปีหน้าปริมาณน้ำมันโลกจะเกินความต้องการ 3.84 ล้านบาร์เรล/วัน พร้อมจับตาการเจรจาสันติภาพยูเครน–รัสเซียระหว่าง โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และ โดนัลด์ ทรัมป์ ระยะสั้นราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นปัจจัยกดดันหุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP 

• ภายหลังประชุม GBC ไทย–กัมพูชา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ระบุไทยเห็นชอบหยุดยิงแบบมีเงื่อนไข เริ่ม 27 ธ.ค. 12.00 น. ไม่ใช่การยอมจำนน และยังมีสิทธิป้องกันตนเองหากถูกละเมิด ถือว่าเป็น Sentiment เชิงบวกระยะสั้นกับหุ้น CBG OSP SAV

• นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ระบุการรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อวันแรกเป็นไปเรียบร้อย 52 พรรคส่งเอกสารครบ เสนอแคนดิเดตนายกฯ 32 พรรค ย้ำ กกต.ตั้งเป้าจัดเลือกตั้ง 8 ก.พ. 2569 แม้พื้นที่ชายแดนยังตึงเครียด ส่วนการจัดประชามติแบ่ง 3 ส่วน โดยการให้ข้อมูลเป็นหน้าที่ของ ครม.เสนอคำถามมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง

• จีนเดินหน้าคุมการผลิตเหล็กดิบต่อเนื่อง และห้ามเพิ่มกำลังผลิตใหม่ที่ผิดกฎหมายช่วงปี 2569–2573 แก้ปัญหากำลังการผลิตล้นตลาด ท่ามกลางอุปสงค์อ่อนแอในภาคอสังหาฯ คาดปี 2568 ผลิตต่ำกว่า 1 พันล้านตันครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลัง 11 เดือนแรกปี 2568 ผลิดลดลง 4% YoY เตรียมใช้ระบบใบอนุญาตคุมการส่งออกเหล็กตั้งแต่ปี 2569

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,250–1,320 จุด โดยบรรยากาศลงทุนมีปัจจัยหนุนเชิงฤดูกาลจากแรงซื้อโค้งสุดท้ายปลายปีจากกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG และการทำ Window Dressing อีกทั้งยังมีแรงหนุนจาก January Effect ซึ่งจากสถิติย้อนหลัง 5 ปี (2564–2568) พบว่า ช่วงสัปดาห์แรกของวันทำการหลังปีใหม่ SET จะปรับขึ้น โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยราว 1.3% ด้วย Win Rate 60% สะท้อนพฤติกรรมการกลับเข้าลงทุนของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศหลังพ้นวันหยุดยาว ขณะเดียวกันมองตลาดจะเริ่มให้น้ำหนักกับปัจจัยการเมืองในประเทศมากขึ้น รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมืองหลัก ส่วนปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตามซึ่งอาจมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น ได้แก่ FOMC Minutes และข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในเดือน ธ.ค. ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบก่อนเข้าช่วงสิ้นปี คาดตลาดติดตามปัจจัยในประเทศ-การเมือง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 68 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI 

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอีก 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลงตามภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จาก January Effect โดยเน้นเลือกหุ้น SETHD และ sSET ซึ่งจากสถิติ 5 ปีล่าสุดพบให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงราว 1.5-2.0% ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังเปิดปีใหม่ด้วย Win Rate 80% แนะนำ KTB BBL AP THANI KBANK และ 2) หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และ/หรือ ความคาดหวังเชิงบวกกจากเชื่อมโยงกับนโยบายของพรรคการเมือง อาทิ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL TNP) กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (GFPT CBG OSP) กลุ่มสินเชื่อ (SAWAD TIDLOR) และกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW)  

Daily Top Picks

KTB: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการเป็นธนาคารที่มีการเติบโตของสินเชื่อใน พ.ย. สูงสุดในกลุ่ม +2.2% MoM จากทั้งภาครัฐและธุรกิจ ให้ปันผลสูง คาดปี 2568–2570 อยู่ที่ราว 2.15–2.35 บาท/หุ้น หรือ Div. Yield ราว 7.6-8.3% มีความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ตํ่า และมีโอกาสจะประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน เป้าหมายระยะสั้นที่ 29.50 บาท

CPALL: ปัจจัยกระตุ้นจากเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบ ศก.ช่วงหาเสียงเลือกตั้งและคาดจะเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต YoY ใน 4Q68 จากยอดขาย CVS แข็งแกร่งและมาร์จิ้น CVS กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ ธ.ค.นี้เป็นต้นไป เป้าหมายระยะสั้น 45.50 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 ธ.ค. 2568 เวลา : 13:21:58
30-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) ลบ 5.22 จุด ดัชนี 1,254.03 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 ธ.ค.68) ลบ 2.58 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,256.67 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,550-4,570เหรียญ

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (29 ธ.ค. 68) บวก 0.45 จุด ดัชนี 1,259.70 จุด

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (29 ธ.ค. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 67,300 บาท

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (29 ธ.ค.68) ภาคเหนือและภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 3 องศา กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

8. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

9. ตลาดหุ้นปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.52 จุด ดัชนี 1,259.25 จุด

10. ตลาดหุ้นไทยปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.28 จุดดัชนี 1,259.49 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,540-4,560เหรียญ

12. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,900 บาท

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (26 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา/ภาคใต้ ฝนตกหนัก 40-60% คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง จนถึง 28 ธ.ค.

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 0.06 จุด ดัชนี 1,264.71 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 30, 2025, 2:09 am