เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Krungthai Compass วิเคราะห์ "ส่งออกเดือน พ.ย. 2568ขยายตัว 7.1%YoY ส่งออกไทยปี 69 จะพลิกกลับมาหดตัว จากผลของภาษีสหรัฐฯ และการแข่งขันในตลาดโลก"



 
• มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 เติบโต 7.1%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ 5.7%YoY ส่วนหนึ่งสะท้อนการส่งออกทองคำที่หดตัวน้อยลง อย่างไรก็ตาม พบว่า Momentum รายเดือนแผ่วลงต่อเนื่อง สะท้อนผลจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น ด้านการนำเข้ายังขยายตัวสูงที่ 17.6%YoY ส่งผลให้การค้าขาดดุลที่ 2,726.86 ล้านดอลลาร์ สรอ.

• แนวโน้มในปี 2569 คาดว่าการส่งออกไทยจะกลับมาหดตัวที่ -1.0% จากผลของภาษีสหรัฐและการแข่งขันในตลาดโลกที่เข้มข้นขึ้น โดยติดตาม 1) ความไม่แน่นอนของการระบายสต็อกสินค้าของคู่ค้าในสหรัฐฯ ที่อาจทำให้คำสั่งซื้อลดลงเร็วกว่าคาด 2) การแข็งค่าของเงินบาทและ 3) ศาลสูงสุดสหรัฐอาจตัดสินให้ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่อาจทำให้เกิดช่วงปลอดภาษีชั่วคราว

มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 ขยายตัว 7.1%YoY

มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 อยู่ที่ 27,445.6 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 7.1%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.7%YoY แรงขับเคลื่อนมาจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อน สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้ การส่งออกที่ขยายตัวเร่งขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการส่งออกทองคำหดตัวน้อยลง เมื่อหักทองคำแล้ว มูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัวได้ 8.7%YoY ชะลอลงจาก 13.0%YoY ในเดือนก่อน 

 
• การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 12.2%YoY เร่งขึ้นจาก 8.8%YoY ในเดือนก่อน โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+68.0%) อัญมณีและเครื่องประดับ (+66.7%) และ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+59.9%) ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ (-13.6%) ผลิตภัณฑ์ยาง (-12.1%) และ เม็ดพลาสติก (-11.4%) เป็นต้น (รูปที่ 2)

• ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 9.5%YoY โดยสินค้าเกษตรหดตัว 15.7%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 2.3%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (-43.1%)  ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-28.8%) และเครื่องดื่ม (-19.9%) ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+171.4%) เนื้อหาและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ (+55.7%) และ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง (+20.3%) เป็นต้น

ส่งออกรายตลาดสำคัญขยายตัวในสหรัฐฯ-ยุโรป ขณะที่ตลาดจีนและญี่ปุ่นกลับมาหดตัวในเดือนนี้

• สหรัฐฯ: ขยายตัว 37.9%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 26 โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และรถยนต์ เป็นต้น

 
• จีน: หดตัว 7.8%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 14 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง เคมีภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น คอมพิวเตอร์ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง  และ ยางพารา  เป็นต้น

• ญี่ปุ่น: หดตัว 8.9%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ เครื่องจักรกล เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น  ทองแดงและของทำด้วยทองแดง อัญมณีและเครื่องประดับ และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น

• EU27: ขยายตัว 12.0%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ และ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว  เช่น เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น

• ASEAN-5: ขยายตัว 5.7%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น

• มูลค่าการนำเข้าเดือน พ.ย. อยู่ที่ 30,172.5 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวสูงที่ 17.6%YoY เร่งขึ้นจาก 16.3%YoY เมื่อเดือนก่อน สินค้านำเข้าที่ขยายตัว เช่น อาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่น ๆ (69.7%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (29.7%YoY) เป็นต้น ในขณะที่สินค้านำเข้าที่หดตัว เช่น สินค้าเชื้อเพลิง     (-16.7%YoY) เป็นต้น ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน พ.ย. ขาดดุล 2,726.86 ล้านดอลลาร์ฯ

Implication: 

Krungthai COMPASS คาดว่าการส่งออกไทยในปี 2569 จะหดตัวจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยเต็มปี

 
• ในเดือน พ.ย. 2568 Momentum การขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนยังมีแนวโน้มแผ่วลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินค้ากลุ่ม Low Local Content1 ที่ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และกลุ่ม High Local Content ที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 (รูปที่ 5) 

• Momentum ของการส่งออกที่มีแนวโน้มแผ่วลง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม High Local Content ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับการผลิตและการจ้างงานภายในประเทศค่อนข้างสูงจะเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2569

ความเสี่ยงที่ต้องติดตามในปี 2569 ดังต่อไปนี้ 

(1) ความเร็วของการระบายสต็อกสินค้าของคู่ค้าสหรัฐฯ จากที่เคยเร่งนำเข้าในช่วงก่อนหน้ายังมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้คำสั่งซื้อชะลอตัวลงเร็วหรือมากกว่าคาด 

(2) การแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ และตลาดอื่นๆ ที่ทดแทนสหรัฐฯ อาจรุนแรงกว่าคาด โดยต้องติดตามปัจจัยที่กำหนดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง การแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลกระทบเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.2568 ทำให้ราคาสินค้าไทยแพงขึ้นมากกว่าคู่แข่ง และทำให้กำไรในรูปเงินบาทลดลง 

(3) ศาลสหรัฐอาจพิจารณาตัดสินให้มาตรการภาษี Reciprocal Tariff ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาษีลดลงชั่วคราว ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันมาตรการทางการค้ากลับมาใช้ผ่านช่องทางกฎหมายอื่นต่อไป (รูปที่ 6)

1 สินค้า Low (High) Local Content หมายถึงสินค้าที่มีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าทุนหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศสูง โดยอ้างอิงจากการศึกษา เรื่อง ภาษีทรัมป์ 2.0 กับความท้าทายต่อภาคการส่งออกไทย (2025) สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย

ก้องภพ วงศ์แก้ว
กฤตตฤณ เหล่าฤทธิ์
Krungthai Compass
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 ธ.ค. 2568 เวลา : 15:59:27
30-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) ลบ 5.22 จุด ดัชนี 1,254.03 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 ธ.ค.68) ลบ 2.58 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,256.67 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,550-4,570เหรียญ

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (29 ธ.ค. 68) บวก 0.45 จุด ดัชนี 1,259.70 จุด

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (29 ธ.ค. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 67,300 บาท

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (29 ธ.ค.68) ภาคเหนือและภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 3 องศา กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

8. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

9. ตลาดหุ้นปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.52 จุด ดัชนี 1,259.25 จุด

10. ตลาดหุ้นไทยปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.28 จุดดัชนี 1,259.49 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,540-4,560เหรียญ

12. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,900 บาท

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (26 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา/ภาคใต้ ฝนตกหนัก 40-60% คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง จนถึง 28 ธ.ค.

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 0.06 จุด ดัชนี 1,264.71 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 30, 2025, 3:34 am