เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "ปี 69 คาดมูลค่าตลาดนมพืชทางเลือกโต 5.0% แต่ยังเสี่ยงแข่งขันรุนแรง"


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าตลาดนมพืชทางเลือกปี 2569 จะอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท โต 5.0% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาต่อหน่วยที่มีแนวโน้มปรับลดลง การเพิ่มขึ้นของจำนวนผลิตภัณฑ์และช่องทางการขาย ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
 
• นมพืชทางเลือกยังเผชิญกับการแข่งขันสูง ท่ามกลางต้นทุนการผลิตที่ผันผวนและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจยังขึ้นอยู่กับความสามารถในบริหารจัดการต้นทุนและกลยุทธ์เพิ่มยอดขายและฐานลูกค้า 

เทรนด์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันหนุนคนไทยบริโภคผลิตภัณฑ์จากพืชเพิ่ม 
 
คนไทยบริโภคผลิตภัณฑ์จากพืชมากขึ้น โดยได้รับหนุนจากเทรนด์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และการตระหนักเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนจาก สัดส่วนการบริโภคธัญพืช ผักและผลไม้ของคนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 15.7% และ 13.0% ในปี 2554 คาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 17.7% และ 14.3% ในปี 2568 สวนทางกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เดิมอยู่ที่ 21.5% ในปี 2554 อาจปรับลดเหลือ 18.5% ในปี 2568 (รูปที่ 1)

 
 
ปี 2569 คาดมูลค่าตลาดนมพืชทางเลือกโต 5.0% สูงกว่าภาพรวมตลาดนมและตลาดโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมใหม่ 
 
นมพืชทางเลือก  เป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์จากพืชที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยปี 2569 คาดว่า มูลค่าตลาดนมพืชทางเลือกจะอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท โต 5.0% เติบโตสูงกว่าภาพรวมตลาดนมและตลาดโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมใหม่ ที่คาดจะโต 2.2% และ 2.0% ตามลำดับ ทั้งนี้ แม้ว่านมพืชทางเลือกจะมีสัดส่วนเพียง 8.7% ของมูลค่าตลาดนมของไทย แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (รูปที่ 2)

 
โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของตลาดนมพืชทางเลือก ในปี 2569 มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
 
-  ราคาต่อหน่วยที่มีแนวโน้มปรับลดลง ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น เดิมนมพืชทางเลือกเป็นสินค้า Niche Market ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ คู่แข่งน้อยและมีราคาสูง แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นและบางส่วนสามารถผลิตได้ในประเทศ ทั้งการขอใบอนุญาตผลิตจากแบรนด์ชั้นนำของโลกและการตั้งโรงงานผลิตในไทย ส่งผลให้จำนวนสินค้า แบรนด์และการแข่งขันในตลาดรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะมีแนวโน้มผันผวน แต่บรรดาผู้ประกอบการก็พยายามทำราคาให้เข้าถึงง่ายเพื่อกระตุ้นอัตราการบริโภค โดยเน้นบริหารจัดการต้นทุนอื่นๆ ทดแทน ดังนั้น ราคาเริ่มต้นของนมพืชทางเลือกในไทย จึงปรับลดลงต่อเนื่องราว 15-50% เมื่อเทียบกับช่วงแรกที่เข้ามาทำตลาด (รูปที่ 3) ส่งผลให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับนมอื่นๆ (รูปที่ 4)
 

 
- การเพิ่มขึ้นของจำนวนผลิตภัณฑ์และช่องทางการขาย ทั้งจากการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของผู้ประกอบการนมในประเทศ ให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยเน้นตลาดแมส และนมพืชทางเลือกนำเข้ากลุ่มพรีเมียมที่เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง รวมถึงกลยุทธ์ขยายตลาดของธุรกิจจากเดิมที่เน้นตลาด B2C ไปสู่ตลาด B2B โดยเจาะร้านเครื่องดื่มและคาเฟ่ จากการเพิ่มเมนูที่ใช้นมพืชทางเลือกมาเป็นส่วนผสม ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากทดลองและบริโภคซ้ำ
 
- พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาบริโภคนมพืชทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีข้อกำจัดการบริโภคนมอื่นๆ อาทิ นมวัว/นมถั่วเหลือง ย่อยแลคโตส บกพร่อง จากจุดเด่นที่มีรสชาติ เนื้อสัมผัสและคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย เช่น นมอัลมอนด์มีไขมันดีและแคลอรี่ต่ำ นมข้าวโอ๊ตมีรสหวานธรรมชาติและใยอาหารสูง 

ปัจจัยท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญระยะต่อไป
 
- การแข่งขันรุนแรงในตลาดนมจากพืช ซึ่งมีมากกว่า 100 แบรนด์ ทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้าซึ่งแม้ราคาสูงแต่ก็เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค อาทิ นมพืชทางเลือกออแกนิค นมพืชทางเลือกที่ใช้วัตถุดิบราคาสูง-หายาก (ถั่วลันเตา เฮเซลนัท แมคคาเดเมีย) สะท้อนจาก มูลค่าการนำเข้านมพืชทางเลือกของไทยที่เติบโตดี โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) อยู่ที่ 10% ในช่วงปี 2564-2567  ส่วนใหญ่นำเข้าจากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังต้องแข่งขันกับนมพืชดั้งเดิมอย่าง นมถั่วเหลือง ที่หาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกว่า ดังนั้น ผู้บริโภคจึงปรับพฤติกรรมเลือกซื้อตามกำลังซื้อที่มีในแต่ละช่วงเวลา
 
- ต้นทุนวัตถุดิบยังผันผวนและมีทิศทางสูงขึ้น โดยต้นทุนวัตถุดิบมีสัดส่วนราว 40-50% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ซึ่งไทยพึ่งพาการนำเข้าสูง อาทิ โอ๊ต อัลมอนด์ วอลนัท (รูปที่ 5) จากแหล่งนำเข้าสำคัญอย่าง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ที่ยังมีความเสี่ยงทั้งเรื่องสภาพอากาศที่แปรปรวนที่อาจกระทบกับผลผลิตและราคา ขณะที่ต้นทุนการขนส่งยังมีโอกาสผันผวนได้ จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบกับเส้นทางการค้าในบางพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญของโลก ทั้งสหรัฐฯ จีนและตะวันออกกลาง จึงอาจกดดันอัตรากำไรของผู้ประกอบการ ท่ามกลางการปรับขึ้นราคาที่ทำได้จำกัดเพราะการแข่งขันสูง
 
ดังนั้น ทิศทางการเติบโตของธุรกิจนมพืชทางเลือกระยะต่อไป จึงขึ้นอยู่กับการจัดการต้นทุนการผลิตที่ทำให้ราคาแข่งขันได้ และกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดขายและฐานลูกค้า ท่ามกลางกำลังซื้อที่เปราะบางและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 ธ.ค. 2568 เวลา : 16:29:42
30-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) ลบ 5.22 จุด ดัชนี 1,254.03 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 ธ.ค.68) ลบ 2.58 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,256.67 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,550-4,570เหรียญ

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (29 ธ.ค. 68) บวก 0.45 จุด ดัชนี 1,259.70 จุด

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (29 ธ.ค. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 67,300 บาท

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (29 ธ.ค.68) ภาคเหนือและภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 3 องศา กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

8. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

9. ตลาดหุ้นปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.52 จุด ดัชนี 1,259.25 จุด

10. ตลาดหุ้นไทยปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.28 จุดดัชนี 1,259.49 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,540-4,560เหรียญ

12. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,900 บาท

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (26 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา/ภาคใต้ ฝนตกหนัก 40-60% คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง จนถึง 28 ธ.ค.

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 0.06 จุด ดัชนี 1,264.71 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 30, 2025, 2:09 am