เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "ตลาด ESG Bond ไทยปี 2025: ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจหนุนการฟื้นตัว และเทรนด์การออก Sustainability-linked & Blue Bond ที่เพิ่มขึ้น"


• การออก ESG Bond ใหม่ในประเทศไทย เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในปี 2025 หลังตลาดชะลอตัวมาหลายปี ด้วยมูลค่าตราสารหนี้ออกใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 5.7% จากปีก่อน

• ตลาด ESG Bond ปี 2025 ฟื้นตัวจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่เพิ่มการออก Sustainability-linked Bond และ Sustainability Bond ขณะที่ภาคเอกชนชะลอการออก ESG Bond โดยยอดออก Green Bond ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต จากจำนวนโครงการ ESG ใหม่ที่มีให้ลงทุนลดลง แต่ Sustainability-linked Bond และ Blue Bond ขยายตัว

• ในปี 2025 Sustainability-linked Bond และ Blue Bond ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้ออกตราสารหนี้ เนื่องจากความยืดหยุ่นด้านกฎระเบียบของ Sustainability-linked Bond ที่ให้   ผู้ออกกำหนด KPI ความยั่งยืน 

ภาพรวมการออก ESG Bond ในไทย ปี 2025 
 
การออก ESG Bond ใหม่ในประเทศไทย เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในปี 2025 หลังตลาดชะลอตัวมาหลายปี โดยมียอดตราสารหนี้ออกใหม่อยู่ที่ 186,404 ล้านบาท (ณ 22 ธ.ค. 2025) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.7% ซึ่งอยู่ที่ 176,333 ล้านบาท 

 
การฟื้นตัวของตลาด ESG Bond มาจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจปรับทิศทางการออกพันธบัตร
 
ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจปรับทิศทางมาออก Sustainability-linked Bond และ Sustainability Bond เพิ่มขึ้น กลายเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ตลาด ESG Bond ในปี 2025 ฟื้นตัว ด้วยยอดออกใหม่รวมกันกว่า 142,434 ล้านบาท (ณ 22 ธ.ค. 2025) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 24.9% ซึ่งอยู่ที่ 114,000 ล้านบาท 
 
ในปี 2025 กระทรวงการคลังขยายการออก (Re-open) Sustainability-linked Bond รุ่น SLB406A ถึง 7 ครั้งในปีนี้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 111,434 ล้านบาท (ณ 22 ธ.ค. 2025) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 271.4% ซึ่งอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท และเป็นการออกพันธบัตรรุ่น SLB406A ครั้งแรก เพื่อปรับโครงสร้างหนี้จากการเยียวยาผลกระทบในช่วง COVID-19
 
ด้านรัฐวิสาหกิจ โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) ออก Sustainability Bond เพิ่มขึ้นในปี 2025 จาก 11,000 ล้านบาทในปีก่อน เป็น 20,000 ล้านบาท (ณ 22 ธ.ค. 2025) หรือขยายตัวกว่า 81.8% เพื่อนำเงินไป Refinance สินเชื่อโครงการที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนและเพื่อชำระคืนเงินทุนที่ใช้ไปในการปล่อยสินเชื่อในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสังคมของธนาคาร                  
 
นอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ออก Sustainability-linked Bond 2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการขยายและปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า

 
ตลาด ESG Bond ภาคเอกชนชะลอ แต่ Sustainability-linked และ Blue Bond เติบโต

การออก ESG Bond ใหม่จากภาคเอกชนยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ในปี 2025 ภาคเอกชนมียอดออก ESG Bond ใหม่อยู่ที่ 43,970 ล้านบาท (ณ 22 ธ.ค. 2025) ลดลงจากปีก่อนถึง 29.5% ซึ่งอยู่ที่ 62,333 ล้านบาท จากการหดตัวของยอดออก Sustainability Bond และ Social Bond
 
ยอดออก Green Bond ของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เนื่องจากปัจจุบันภาคเอกชนมีโครงการด้าน ESG ให้ลงทุนเพิ่มเติมค่อนข้างจำกัด ภาคเอกชนกลับมาออก Green Bond เพิ่มขึ้นกว่า 62.5% จาก 6,800 ล้านบาทในปีก่อน เป็น 11,050 ล้านบาท ในปี 2025 (ณ 22 ธ.ค. 2025) แต่มูลค่าการออกยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2021–2023 ซึ่งอยู่ที่ 25,805 ล้านบาท จากการที่ภาคเอกชนได้ลงทุนในโครงการด้าน ESG ไปแล้วในช่วงก่อนหน้า ทำให้ในช่วงนี้ภาคเอกชนมีโครงการลงทุนด้าน ESG เพิ่มเติมค่อนข้างจำกัด 

การออก Sustainability-linked Bond และ Blue Bond จากภาคเอกชนเริ่มขยายตัว ในปี 2025 ภาคเอกชนหันไปออก Sustainability-linked Bond มากขึ้น จาก 15,360 ล้านบาทในปีก่อน เป็น 28,800 ล้านบาท (ณ 22 ธ.ค. 2025) หรือเพิ่มขึ้นกว่า 87.5% โดยเงินทุนส่วนใหญ่ถูกนำไปชำระคืนหนี้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งบางโครงการเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อสัตว์น้ำที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

ด้าน Blue Bond ได้รับความสนใจมากขึ้นจากภาคเอกชนภาคพลังงานและอาหารในปีนี้  ด้วยยอดออกใหม่กว่า 4,120 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุนโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) และเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับกิจการ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและน้ำ 

 
แนวโน้มความสนใจต่อ Sustainability-linked Bond และ Blue Bond ที่เพิ่มขึ้นในปี 2025

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า Sustainability-linked Bond ได้รับความสนใจมากขึ้นจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จากความยืดหยุ่นด้านกฎระเบียบ โดยผู้ออก Sustainability-linked Bond สามารถกำหนด KPI ด้านความยั่งยืนได้ด้วยตนเอง

ด้าน Blue Bond ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของตลาด จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มีสภาพคล่องต่ำและมีข้อมูลประกอบการลงทุนจำกัดเมื่อเทียบกับ Green Bond เนื่องจากจำนวนผู้ออกและตราสารยังน้อย โดยมีเพียง 4 รายและ 7 ฉบับ นับตั้งแต่เริ่มออกครั้งแรกในปี 2024 จนถึงปี 2025  

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 ธ.ค. 2568 เวลา : 16:54:57
30-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) ลบ 5.22 จุด ดัชนี 1,254.03 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 ธ.ค.68) ลบ 2.58 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,256.67 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,550-4,570เหรียญ

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (29 ธ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (29 ธ.ค. 68) บวก 0.45 จุด ดัชนี 1,259.70 จุด

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (29 ธ.ค. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 67,300 บาท

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (29 ธ.ค.68) ภาคเหนือและภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 3 องศา กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

8. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

9. ตลาดหุ้นปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.52 จุด ดัชนี 1,259.25 จุด

10. ตลาดหุ้นไทยปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.28 จุดดัชนี 1,259.49 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,540-4,560เหรียญ

12. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,900 บาท

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (26 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา/ภาคใต้ ฝนตกหนัก 40-60% คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง จนถึง 28 ธ.ค.

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 0.06 จุด ดัชนี 1,264.71 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 30, 2025, 2:09 am