ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ไตรมาสแรกโดดเด่น กำไรโต 49%


ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ – DRT โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรก มีรายได้ 1,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 192 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 49.0% ยอดขายโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งมีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน 44 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2 มั่นใจยังเอาอยู่ หลังการปรับค่าแรงขั้นต่ำในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา รวมทั้งต้นทุนสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นตามค่าแรง ชี้แนวโน้มความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างยังเติบโตได้ดี มั่นใจทำยอดขายโต 10% ตามเป้าที่วางไว้

 นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ ไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ปี 2555 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 1,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 951 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 192 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท คิดเป็น 49.0% ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิ 129 ล้านบาท โดยมีการรับรู้กำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน 44 ล้านบาท (หลังหักภาษีนิติบุคคลแล้ว) ช่วยหนุนผลประกอบการไตรมาสแรกให้สูงขึ้น

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกที่ดีขึ้นทั้งรายได้และกำไรสุทธินั้น มีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญมาจากความสามารถในการทำตลาดของ ‘ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ ที่สูงขึ้น มีการขยายตลาดในประเทศผ่านช่องทางขายร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้า รวมทั้งยังสามารถขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดประเทศพม่าและกัมพูชา เนื่องจากบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบสนองความต้องการและสร้างความเชื่อมั่นถึงคุณภาพสินค้าที่ดีให้แก่ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยสร้างยอดขายให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” นายอัศนี กล่าว
 
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า บริษัทฯ เชื่อว่า ในปี 2555 จะรักษาอัตราเติบโตของรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ 10% เพราะมีความพร้อมด้านกำลังการผลิตที่สูงขึ้น โดยในช่วงกลางปีนี้ บริษัทฯ จะสามารถเริ่มเดินเครื่องสายการผลิต NT10 ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์ ด้วยกำลังการผลิต 72,000 ตัน ทำให้กำลังการผลิตรวมของตราเพชรเพิ่มเป็น 752,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
ส่วนแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้ เชื่อว่าจะยังมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยมีปัจจัยจากตลาดซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ที่ผู้บริโภคเริ่มทยอยซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังจากภาวะน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันและค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากได้เตรียมแผนรับมือบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยดังกล่าวไว้แล้ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่แผนการดำเนินงานตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทฯ มองเห็นโอกาสผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้น โดยใช้ความพร้อมด้านกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อหนุนยอดขาย โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าสามารถผลักดันเป้าสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกเพิ่มเป็น 20% ได้


LastUpdate 14/05/2555 13:29:50 โดย : Admin

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:43 am