นางพัลลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที ในอีก 4 งวดข้างหน้าตั้งแต่เดือนก.ย.นี้เป็นต้นไป มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น 8 สตางค์/หน่วย เนื่องจาก กกพ.มีแผนที่จะทยอยคืนเงินให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่รับภาระตรึงค่าเอฟทีมาตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. ประมาณ 14,000 ล้านบาท
"การพิจารณาเพิ่มค่าเอฟทีจะต้องพิจารณาต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า อัตราแลกเปลี่ยนรวมทั้งการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในช่วงนั้นประกอบด้วย โดหากสามารถชำระเงินคืนให้กับ กฟผ.ได้ตามแผนที่วางไว้ก้คาดว่าภาระหนี้จะหมดลงในกลางปี 2556 ซึ่งจะทำให้ กฟผ.สามารถนำเงินไปใช้ในการลงทุนได้ตามแผน"นางพัลลภากล่าว
ส่วนการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีคาดว่า จะแล้วเสร็จกลางปี 2556 และค่าไฟฟ้าฐานอาจปรับลดลงได้จากปัจจุบัน 3.20 บาท/หน่วย เนื่องจาก กกพ.จะทบทวนค่าบริการในการจดหน่วยจำหน่ายเพื่อเก็บบิลค่าไฟจากประชาชน ซึ่งมีการคำนวณรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าฐานที่อัตรา 38.22 บาท/เดือน
นอกจากนี้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการในการชำระค่าไฟฟ้าผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งเป็นการเก็บค่าบริการที่ซ้ำซ้อนนั้น กกพ.ได้ทำหนังสือไปยัง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ให้พิจารณาปรับลดค่าบริการดังกล่าวลง รวมทั้งจะต้องมีการจ่ายคืนย้อนหลัง เพราะเงินในส่วนนี้ สามารถนำไปใช้ลดค่าเอฟทีในอนาคตให้กับประชาชนได้
ข่าวเด่น