ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (30 พ.ค.) ปิดภาคเช้า ลบ 6.19 จุด หรือ เปลี่ยนแปลงลดลง 0.54% ดัชนีอยู่ที่ 1,147.47 จุด มูลค่าซื้อขาย 10,465.92 ล้านบาท โดยมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับนักลงทุนยังกังวลราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยร่วงลง
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTGC ราคาล่าสุด 56.25 บาท ลดลง 1.50 บาท ,PTTราคาล่าสุด 310.00 บาท ลดลง 3.00 บาท ,APURE ราคาล่าสุด 2.04 บาท บวก 0.20 บาท ,SMMราคาล่าสุด 3.08 บาท บวก 0.04 บาท และSUPER ราคาล่าสุด 0.92 บาท บวก 0.10 บาท
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคจีไอ มองว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงแต่ไม่มาก เพราะหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่บวกแรงและหนุนดัชนีเมื่อวานนี้จะมีช่วงลงตามจิตวิทยาของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่แย่ลง โดยมองว่าตลาดหุ้นได้รับรู้การเก็งกำไรว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่แล้ว และน่าจะรับรู้ตัวเลขโพลล์ในกรีซที่ว่าพรรค New Democracy ที่สนับสนุนการรัดเข็มขัดนั้นกลับมามีคะแนนนำพรรค SYRIZA เล็กน้อย
คาดว่าดัชนีน่าจะตอบสนองเชิงลบต่อค่าเงินยูโร/ดอลล่าร์ฯ ที่ร่วงต่ำกว่า 1.25 (ต่ำสุดครั้งใหม่รอบ 11 เดือน) และต่อการปรับขึ้นต่อเนื่องของดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสเปนที่ขึ้นมาที่ 6.54% หลังจากบริษัทจัดเรทติ้งท้องถิ่น อีกาน-โจนส์ ปรับลดเครดิตของสเปนเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 เดือน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯที่บวกแรงเมื่อคืนไม่น่าจะหนุนตลาดหุ้นเอเชีย เพราะว่าคงเป็นการบวกรับรู้ปัจจัยการเมืองในกรีซเท่านั้น
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคงมุมมองว่าดัชนีจะแกว่งตัวบริเวณ 1,120 จุด บวกหรือลบไปจากจุดดังกล่าวไม่เกิน 30 จุด เนื่องจากนักลงทุนไม่กล้าเลือกทางใดทางหนึ่งก่อนที่กรีซจะเลือกตั้งเรียบร้อยและรู้ผลว่ากรีซจะอยู่หรือออกจากยูโรโซน ด้วยมุมมองดังกล่าว หุ้นกลุ่มหลักโดยเฉพาะพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์จึงยังไม่น่าสนใจในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่ากลุ่มค้าปลีก สื่อสาร และที่ดิน น่าจะโดดเด่นจนกว่าถึงช่วงกลางเดือน มิ.ย.
ข่าวเด่น