นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การแตกแยกทางความคิดระหว่างรัฐบาลที่ต้องการนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติทั้ง 4 ฉบับ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ ขณะที่มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยและมีการชุมนุมคัดค้านการนำ พ.ร.บ.เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ทำให้ขณะนี้ปัจจัยทางการเมืองดังกล่าวกลับมาเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง ซึ่งหากเรื่องยืดเยื้อและเกิดความวุ่นวายยิ่งจะสร้างผลกระทบอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาปัญหาในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง ฉะนั้นน่าจะมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง

แต่สำหรับทางด้านการดำเนินนโยบายการเงิน หากเศรษฐกิจถูกระทบและส่งผลต่อภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ธปท.ก็ยังมีรูมหรือช่องว่างในการดำเนินนโยบายการเงินโดยการใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมืออยู่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังอยู่ระดับต่ำที่สุดในภูมิภาคที่ 3% อย่างไรก็ตาม ธปท.คงต้องติดตามปัญหาการเมืองในประเทศที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่อไป รวมถึงปัจจัยภายนอกประเทศ อาทิ ปัญหาในกลุ่มประเทศแถบยูโรโซนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น และจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้

ทั้งนี้ปัญหาการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ และหลายฝ่ายกำลังเฝ้าติดตามว่าจะมีความยืดเยื้อและจะเกิดความวุ่นวายระลอกใหม่ขึ้นหรือไม่ ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทยในวันนี้ที่ดัชนีร่วงลงมาอยู่ที่ 1,138.63 จุด ลบ 15.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 23,437.88 ล้านบาท