ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 พ.ค.) ปิดภาคเช้า ลบ 8.42 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.74% ดัชนีอยู่ที่ 1,130.21 จุด มูลค่าซื้อขาย 18,656.07ล้านบาท โดยลบน้อยลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาด ลบ 10.15 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.89 % ดัชนีที่ 1,128.48 จุด โดยตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดด้นจากปัจจัยการเมืองที่เมื่อวานเย็นมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในสภาฯ จากฝ่ายรัฐบาลพยายามเร่งรัดให้บรรจุ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ 4 ฉบับ เป็นวาระเร่งด่วนเพื่อพิจารณาในสภาฯ ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ และเกิดความวุ่นวายขึ้นจนต้องสั่งพักการประชุม
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ AAV ราคาล่าสุด 3.78 บาท ปรับบวก 3.78 บาท , PTTGC ราคาล่าสุด 55.00 บาท ปรับลง 0.75 บาท , SCC ราคาล่าสุด 339.00 บาท ปรับบวก 2.00 บาท , KBANK ราคาล่าสุด 148.50 บาท ปรับลง 2.50บาท และ PTT ราคาล่าสุด 306.00 บาท ปรับลง 1.00 บาท
ด้าน บล.ทิสโก้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
โดยสรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -15.03 จุด หลังจีนปฏิเสธข่าวกระตุ้นศก. หุ้นไทยแกว่งแดนลบตลอดทั้งวัน ผิดหวังจีนปฏิเสธข่าวออกมาตรการกระตุ้นศก.ครั้งใหญ่เหมือนปี 2008 + กังวลหนี้ยุโรป ต่างชาติ แม้ซื้อสุทธิ 963 ลบ. แต่กลับมาขาย Short SET50 Index Futures 825 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลงต่อ
ผิดหวังข้อมูลศก.US + วิตกแบงก์สเปน
หุ้นโลกเมื่อคืน (30 พ.ค.) ดิ่งหนัก ผิดหวังข้อมูลภาคอสังหาฯ US + กังวลอนาคตกรีซและความมั่นคงของแบงก์สเปน (CDS 5 ปีของสเปนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 586 bps) นลท.แห่ถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างสกุลเงินและพันธบัตร US ส่งผลให้ 10Y Bond Yield ของ US อยู่ในต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.60% และดอลล์แข็งค่าขึ้น นอกจากปัจจัยภายนอกจะกดดัน SET แล้ว จับตาประชุมสภาฯ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองวันนี้ ท่ามกลางการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ
มอง SET แกว่งลงต่อ แนวรับ 1125-1130 แนวต้าน 1145+/-
กลยุทธ์การลงทุน : "wait & see"
ความเสี่ยงมีมากขึ้น เทรดดิ้งสั้นแนะนำ "wait & see"
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เล็งตรวจสอบหุ้นที่เคลื่อนไหวผิดปกติ กดดันบรรยากาศโดยรวม
แต่นักลงทุนที่รักความเสี่ยง ลองดูหุ้น HEMRAJ, SIAM, SPCG, TRC, VNT
สำหรับการลงทุนกลาง-ระยะยาว ยังแนะนำทยอยสะสมได้บางส่วนแบบไม่รีบร้อน (อาจรอ SET ต่ำกว่าระดับ 1120 ลงมา) แนะนำ ADVANC, CPF, CPN, INTUCH, HEMRAJ, MAJOR, ROBINS, TUF
หุ้นเด่นเล่นสั้น : TRC, VNT
TRC - บริษัทเชื่อมั่นเป้ารายได้ปีนี้ที่ 3 พันลบ. โต 30% เป็นไปได้สูงจาก backlog สิ้น Q1 อยู่ที่ 4 พันลบ. ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ราว 3 พันลบ. ล่าสุดเพิ่งคว้างานโอมานมูลค่า 100 ลบ. และอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรอีก 2-3 ราย PER ต่ำเพียง 6.2 เท่า ปันผล 3-4% ต่อปี มูลค่าเหมาะสม 5 บ. (CONSENSUS)
VNT - ประกาศจะลงทุน 7.2 พันลบ. ผลิตสาร ECH ในจีน ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด หวังขยายฐานลูกค้า และคาดว่าจะได้รับ IRR จากโครงการนี้มากกว่า 17% มูลค่าเหมาะสม 20.3 บ. (CONSENSUS)
ปัจจัยติดตาม
วันที่ 31 พ.ค. 55
-ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย.
-ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน เม.ย. (เบื้องต้น)
-ตัวเลขการว่างงานของเยอรมันในเดือน พ.ค.
-ไอร์แลนด์ลงประชามติเกี่ยวกับมาตรการดูแลการคลังของกลุ่มสหภาพยุโรป
-ตัวเลขราคาบ้านทั่วประเทศของอังกฤษในเดือน พ.ค.
-ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศ (ADP Employment) ของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค.
-ตัวเลขเศรษฐกิจ (GDP) และการบริโภคที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาส 1/55
-ตัวเลขดัชนีชี้ภาวะธุรกิจเขตชิคาโก (Chicago Purchasing Manager)ของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค.
-ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ค.
วันที่ 1 มิ.ย 55
-ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) ของไทยในเดือน พ.ค.
-ตัวเลข ISM Manufacturing ของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค.
-ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค.
-ตัวเลขรายได้และการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย.
-ตัวเลขภาคการผลิต (PMI Manuf.) ของกลุ่มยูโรโซนในเดือน พ.ค.
-ตัวเลขอัตราการว่างงานของกลุ่มยูโรโซนในเดือน เม.ย.
-ตัวเลขการลงทุนของญี่ปุ่นในไตรมาส 1/55
-ตัวเลขภาคการผลิต (PMI Manuf.) ของจีนในเดือน พ.ค.
ข่าวเด่น