บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด สรุปภาวะตลาดวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,551.48 – 1,562.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM12 อยู่ที่ 23,600 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 23,760 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM12 อยู่ที่ 885 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 12 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 897 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 5 มิถุนายน 2555 วายแอลจี มองว่าปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงลง จากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีการชะลอลงกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐบาลได้ลดลง 6 ไตรมาสติดต่อกัน ทั้งรัฐบาลและผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง เห็นได้จากภาคธุรกิจชะลอการเพิ่มสต็อกอุปทาน ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงที่ขยายตัวเพียง 1.9% ในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 2.2% ประกอบกับบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 133,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้เช่นกัน ตัวเลขทางฝั่งสหรัฐอเมริกาที่โดยรวมแล้วค่อนข้างส่งผลต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งแรงซื้อในตลาดทองคำมีเข้ามาตามตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา ดังนั้นแล้วนักลงทุนควรติดตามและประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของยุโรปว่าคงร้อนแรงต่อไป และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ยุโรปจะหาทางออกจากวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลังจากการประชุมของบรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างๆที่ผ่านมา กลับไม่มีวี่แววของมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทำให้ความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจากผลการประชุมต่างๆอยู่ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,535 ดอลลาร์ต่อออน์ได้ คาดว่าราคาจะอ่อนตัวลง แต่หากยืนได้อย่างแข็งแกร่ง น่าจะได้เห็นการขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญระดับที่บริเวณ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี มองว่าราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,535 หรือ 1,522 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไร แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,522 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุน
ข่าวเด่น