ห้าโมงเย็นวันนี้ หลีกเลี่ยงการเดินทางหน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก เพราะจะมีกลุ่มมวลชนเสื้อแดงนัดชุมนุมประท้วงเกี่ยวกับมาตรา 112 โดยขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางกันมาแล้ว
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยจะนัดประชุมส.ส.พรรค ในวันพรุ่งนี้(11 มิ.ย.) เพื่อหารือเรื่องการส่งหนังสือของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถึงประธานรัฐสภาที่ให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 คาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะกำหนดวันลงมติวาระ 3 ได้เมื่อใด
“มีความเป็นไปได้ที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 แต่คงต้องรอวิปรัฐบาลหารือในวันพรุ่งนี้ก่อน และในวันเดียวกันพรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา”โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวตเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หยุดเล่นเกมการเมือง ทั้งเรื่องการเสนอให้ปิดสมัยประชุมสภา การกล่าวหาผลักดันพระราชบัญญัติปรองดองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ถูกทำให้ยุติโดยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่มีสิทธิ์อำนาจสั่งให้สภาผู้แทนราษฎรชะลอการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งการตีความ มาตรา 68 บิดเบือนไปจากความเป็นจริง อาจทำให้กลายเป็นบรรทัดฐานและเสมือนว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสูงสุดกว่าสภาผู้แทนราษฎร การเข้ามาก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่อันตรายมากต่อประเทศที่เป็นประชาธิปไตย
“หากรัฐสภาไม่มีการลงมติวาระ 3 ในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ สถานการณ์อาจเข้าขั้นวิกฤต ศาลรัฐธรรมนูญจะเข้ามาวินิจฉัยเนื้อหาของรัฐธรรมนูญโดยปราศจากการพิจารณาของอัยการสูงสุด เท่ากับเป็นการเข้ามาก้าวก่ายอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างชัดเจน และโอกาสนี้ จะทำให้เกิดวิกฤติขึ้นอีกครั้ง”นายจาตุรนต์ระบุ
นายจาตุรนต์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้กำหนดว่าจะให้แก้ไขได้ หรือ จะเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ หากปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญ เข้ามามีอำนาจเหนือฝ่ายนิติบัญญัติ ก็จะเท่ากับว่าต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจชี้นำในด้านต่าง ๆ
ข่าวเด่น