บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทาร์เก็ต (KFEQ8) อายุโครงการประมาณ 8 เดือน ตั้งเป้าผลตอบแทน 8% จากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เสนอขายระหว่างวันที่ 14–20 มิ.ย. 55 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ จะเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทาร์เก็ต (KFEQ8) ที่มีการบริหารจัดการกองทุนแบบเชิงรุกโดยการคัดเลือกหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นไปที่หุ้นที่จ่ายปันผลดีหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นในตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้ กองทุน KFEQ8 ได้ตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ขึ้นไปหรือมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับหรือมากกว่า 10.91 บาท ต่อหน่วยต่อเนื่องกัน 5 วันทำการหรือตามมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ครบอายุโครงการ โดยบริษัทฯ จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
นายฉัตรพีกล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกกับสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ซึ่งโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะกลับไปยืนที่ 1,250 จุดก็ยังมีความเป็นไปได้ภายในปลายปีนี้ แม้ว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบอยู่บ้างจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์ทางการเมืองของไทย วิกฤติหนี้สาธารณะของยุโรป และอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลและขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา แต่ในแง่ของผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจไทยถือว่ามีน้อยมาก
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าแนวโน้มในระยะยาวของตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งด้านอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียที่มีแนวโน้มสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว และภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทยเองที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตประมาณ 5.75% จากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนที่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา รวมถึงการเร่งตัวของการใช้จ่ายในโครงการต่างๆของภาครัฐซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ส่งผลดีต่อ ระบบเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าปี 2013 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตถึง 7.78% ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยก็มีแนวโน้มเติบโตดีในระดับต้นๆของภูมิภาค จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและได้รับประโยชน์จากการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23% ในปีนี้และ 20% ในปีหน้า รวมถึงนโยบายต่างๆของรัฐที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ที่สำคัญราคาหุ้นไทยในปัจจุบันมีสัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 11 เท่ากว่าๆ ซึ่งถือว่ามีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
“กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8%ทาร์เก็ต (KFEQ8) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยและต้องการเข้ามาลงทุนเพื่อโอกาสได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ บริษัท ฯ คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีเนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น การจัดสรรเงินบางส่วนมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้” นายฉัตรพี กล่าว
ข่าวเด่น