สถาบันคุ้มครองเงินฝากเผยล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารกลางโลกประเมินระบบการเงินของประเทศต่างๆ ด้วยเช็คลิสต์ Core Principles เน้นประสิทธิภาพเข้ม
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา สถาบันคุ้มครองเงินฝากได้ยึดมั่นมาตรฐานสากลในการดำเนินการตาม “หลักการสำคัญของระบบประกันเงินฝากที่มีประสิทธิผล” (Core Principles for Effective Deposit Insurance Systems) ซึ่งเป็นหลักการที่ร่วมกันจัดทำโดยสมาคมสถาบันประกันเงินฝากระหว่างประเทศหรือ International Association of Deposit Insurers (IADI) ในฐานะองค์กรกลางที่เชื่อมโยงสถาบันประกันเงินฝากทั่วโลก และ Basel Committee on Banking Supervision (BCBS) เพื่อเป็นกรอบแนวปฏิบัติสู่ระบบประกันเงินฝากที่มีประสิทธิภาพของสถาบันประกันเงินฝากประเทศต่างๆ ทั่วโลก
และล่าสุดนั้น หลักการ Core Principles ดังกล่าว กำลังถูกนำไปเป็นเช็คลิสต์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( International Monetary Fund : IMF) และธนาคารกลางโลก ( World Bank ) ในการประเมินระบบการเงินของแต่ละประเทศอีกด้วย โดยการประเมิน Core Principles แต่ละข้อจะพิจารณาจากปัจจัยหลัก (Essential Criteria) รวมถึงปัจจัยเสริม (Additional Criteria) ต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ หลักการสำคัญของระบบประกันเงินฝากที่มีประสิทธิผลมีอยู่ 18 ประเด็น โดยสามารถสรุปสาระสำคัญเป็น 10 หัวข้อหลัก
ดังนี้ ประการแรก สถาบันคุ้มครองเงินฝากต้องมีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบการเงินและการคุ้มครองเงินฝาก และมีการออกแบบอย่างเหมาะสม
ประการที่สอง ควรมีอำนาจเพียงพอต่อการดำเนินการตามบทบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันกาล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถจ่ายคืนผู้ฝากได้ทันที
ประการที่สาม ธรรมาภิบาลสถาบันประกันเงินฝากจะต้องดำเนินการด้วยความมีอิสระ โปร่งใส ปลอดจากการแทรกแซงจากการเมืองและจากสถาบันการเงิน
ประการที่สี่ จะต้องมีความร่วมมือ และแบ่งปันข้อมูลกับหน่วยงานอื่น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบสถาบันการเงิน
ประการที่ห้า สถาบันการเงินภายใต้ระบบประกันเงินฝากต้องเป็นสมาชิกแบบบังคับ และกำหนดประเภทเงินฝากที่คุ้มครองที่ชัดเจน และมีการกำหนดวงเงินคุ้มครอง ให้ครอบคลุมผู้ฝากส่วนใหญ่
ประการที่หก กองทุนคุ้มครองเงินฝาก จะได้จากเงินนำส่งจากสถาบันการเงิน หากจะมีการนำระบบจัดเก็บเงินนำส่งตามความเสี่ยงมาใช้จะต้องมีการเปิดเผยต่อสถาบันการเงินและเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นอย่างเหมาะสม
ประการที่เจ็ด การประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ระบบประกันเงินฝากมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ประการที่แปด สถาบันประกันเงินฝากและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจะต้องได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายจากการตัดสินใจหรือดำเนินการโดยสุจริต รวมทั้งจะต้องมีอำนาจในการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้มีส่วนที่ทำให้สถาบันการเงินล้ม
ประการที่เก้า การแก้ปัญหาสถาบันการเงิน ต้องป้องกันปัญหาสถาบันการเงินตั้งแต่เริ่มมีปัญหา โดยมีการแทรกแซงอย่างทันกาล
ประการที่สิบ การจ่ายคืนผู้ฝากและการจัดการทรัพย์สินของสถาบันการเงิน ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจ่ายคืนแก่ผู้ฝากอย่างเพียงพอ
สำหรับวิธีการประเมินระบบประกันเงินฝากของแต่ละประเทศ อาจดำเนินการได้ 4 วิธี ได้แก่ 1.การประเมินตนเองโดยสถาบันประกันเงินฝาก 2.การประเมินโดย IMF และ World Bank ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินระบบการเงินของประเทศหรือ FSAP (Financial Sector Assessment Program) 3.การจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการประเมิน 4.การประเมินโดย Peer review เช่น ใน IADI regional committee หรือ EFDI
อย่างไรก็ตาม หลักการสำคัญของระบบประกันเงินฝากที่มีประสิทธิผลเป็นเพียงหลักการอย่างกว้าง ในระยะต่อไปยังจำเป็นต้องมีการทดสอบและปรับปรุงแก้ไขแนวปฏิบัติตามหลักการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับผู้สนใจรายละเอียดต่างๆ ความเคลื่อนไหวของสถาบันประกันเงินฝาก สามารถติดตามได้ทาง www.dpa.or.th หรือเข้าชมข้อมูลของสมาคมสถาบันประกันเงินฝากระหว่างประเทศได้ทาง www.IADI.org
ข่าวเด่น