นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะยังคงวงเงินค้ำประกันเงินฝากต่อบัญชีไว้ที่ 50 ล้านบาทต่อไป เหตุผลเพราะภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน จึงไม่ใช่เรื่องรีบเร่งที่จะลดระดับการค้ำประกันเงินฝากต่อบัญชีให้เหลือ 1 ล้านบาทในเดือนสิงหาคมนี้ตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมาย
"ในความเห็นของผม ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังยุ่งเหยิงอยู่ เราไม่ควรไปปรับเปลี่ยนอะไร ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยง ดังนั้น ควรที่จะให้คงวงเงินการคุ้มครองเงินฝาก ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อบัญชี ไว้ต่อไป ยังไม่ควรรีบร้อน ปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก ให้เหลือ 1 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคมนี้ ตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมาย"
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า การให้คงอัตราคุ้มครองเงินฝากไว้ที่ 50 ล้านบาทต่อไปในเวลานี้นั้น ไม่ใช่เพราะระบบสถาบันการเงินมีปัญหาความไม่มั่นคง ในทางตรงกันข้าม หลังปี 2540 ที่ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตความมั่นคงของสถาบันการเงินนั้น สถาบันการเงินในประเทศได้ปรับตัวจนมีความมั่นคงมากในเวลานี้ ดังนั้นการคงอัตราคุ้มครองที่ 50 ล้านบาท ในเวลาที่สถาบันการเงินในประเทศมีความมั่นคง จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ในส่วนของผลกระทบต่อไทย รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวว่า ยอมรับว่า ตอนนี้วิกฤตหนี้ยุโรปได้ส่งผลกระทบผู้ประกอบการส่งออกแล้วในบางส่วนแล้ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เจอผลกระทบก่อน ซึ่งตนได้รายงานต่อนายกฯไปแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าฐานะทางการเงินและการคลัง ของไทยสามารถรับมือกับปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปได้
ข่าวเด่น