บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15 มิ.ย.)เงินบาทแข็งค่าขึ้นก่อนผลการเลือกตั้งกรีซ เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบตลอดสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนช่วงแรกจากความต้องการเสี่ยงของนักลงทุน ซึ่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่ยูโรโซนตกลงปล่อยกู้ช่วยเหลือภาคธนาคารในสเปนวงเงินสูงสุด 1.0 แสนล้านยูโร นอกจากนี้ แรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากกลุ่มผู้ส่งออก (ซึ่งเป็นช่วงที่สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก) ก็เป็นปัจจัยบวกของเงินบาทด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เงินบาทสามารถรักษาทิศทางแข็งค่าได้จนถึงในช่วงท้ายสัปดาห์ ขณะที่ สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นท่ามกลางความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการแก้วิกฤตหนี้ยุโรป และสกัดความปั่นป่วนของตลาด

ในวันศุกร์ (15 มิ.ย.) เงินบาทอ่อนค่ามาที่ 31.50 เทียบกับระดับ 31.69 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 มิ.ย.)

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (18-22 มิ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปหลังการเลือกตั้งรอบ 2 ของกรีซ (17 มิ.ย.) ตลอดจนความเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศใช้มาตรการสกัดความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกจากที่ประชุมกลุ่ม G-20 (18-19 มิ.ย.) การประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (19-20 มิ.ย.) และการประชุมรมว.คลังยุโรป (20-21 มิ.ย.) ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ยอดขายบ้านมือสอง ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงดัชนี PMI ของหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ สำหรับเดือนมิ.ย.