วันนี้ (22 มิถุนายน 2555) ณ กระทรวงการคลัง ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) และ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ โดยมี นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานในพิธี นายวิฑูรย์ เจียสกุล ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ และนางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยพร้อมด้วยคณะผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในความร่วมมือครั้งนี้
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความร่วมมือในวันนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาธุรกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน และที่สำคัญเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยอย่างทั่วถึง เนื่องจากความต้องการของประชาชนยังมีอยู่อีกจำนวนมาก โดยพันธกิจหลักของ บตท. เป็นหน่วยงานรัฐแห่งเดียวที่เป็นกลไกของภาครัฐในการระดมทุนโดยนำหลักการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ การออกตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยหนุนหลังเพื่อระดมทุนจากตลาดทุนสู่ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐที่ดูแลด้านที่อยู่อาศัยให้สามารถมีแหล่งเงินทุนในการจัดหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชน ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนนโยบายและลดภาระภาครัฐอีกทางหนึ่งตลอดจนสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศชาติ
นางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) กล่าวว่า การดำเนินงานของ บตท. นั้น เพื่อมุ่งพัฒนาตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย เติมเต็มระบบการเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง การแถลงข่าวในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินตามพันธกิจหลักและร่วมทำธุรกรรมในการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ระบบเศรษฐกิจ และระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัย ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
นางพรนิภา กล่าวเพิ่มเติมว่า บตท. สามารถเป็นเครื่องมือในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการที่อยู่อาศัยของภาครัฐ โดยการทำ Securitization หรือ “การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์” เพื่อระดมเงินให้กับหน่วยงาน หรือองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ตลอดจนการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ว่างเปล่าของรัฐ กล่าวสรุปคือ บตท. สามารถทำหน้าที่สนับสนุนนโยบายภาครัฐ อาทิ ทำหน้าที่เป็น “นิติบุคคลเฉพาะกิจของรัฐ” หรือ “Public SPV” ในการออกตราสารระดมทุนเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการจัดตั้ง SPV และลดภาระการสนับสนุนของรัฐ รวมทั้งทำหน้าที่เป็น “Credit Enhancer” คือ การค้ำประกันให้กับตราสาร Securitization เพื่อลดภาระการค้ำประกันของรัฐ ตลอดจนทำหน้าที่เป็น “Financial Advisor/ Servicer / Transaction Administrator” หรือ เป็นที่ปรึกษาในการกำหนดโครงสร้างธุรกรรม หรือเป็นผู้ให้บริการหรือการบริหารจัดการกับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์นั่นเอง
ข่าวเด่น