ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย ว่า ที่ประชุมอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ 11 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 5,227.6 ล้านบาท โดยจำนวนนี้มี 1 โครงการที่ขอย้ายเข้าลงทุนในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมจากเดิมที่ตั้งโรงานอยู่ที่อื่น มีมูลค่าลงทุนสูงสุด 2,387 ล้านบาท ได้แก่กิจการผลิตขนมขบเคี้ยว ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง ย้ายจากจังหวัดลำพูน มาสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้อยู่ใกล้กับคลังสินค้าของลูกค้าหลักในภาคกลาง

นอกจากนี้ มี 7 โครงการลงทุนในพื้นที่น้ำท่วมเดิม อาทิ ผลิตขนมขบเคี้ยว ของบริษัท ไทยกูลิโกะ มูลค่าเงินลงทุน 250 ล้านบาท ขยายกิจการนี้เพื่อรองรับความต้องการในประเทศที่มีมากขึ้น รวมทั้งขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์กูลิโกะไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์ ลงทุนในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี กิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้ผลิต ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ ของบริษัท ชินเอ พรีซิชั่น (ประเทศไทย) มูลค่า 327 ล้านบาท ตั้งในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกิจการผลิตชิ้นส่วนโลหะ สำหรับใช้ผลิต ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ ของบริษัท เซคชั่น เทคโนโลยี (ประเทศไทย) มูลค่าเงินลงทุน 1,139 ล้านบาท ตั้งในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขณะเดียวกันมี 3 โครงการที่เคยประสบภัยและขอย้ายไปลงทุนในพื้นที่ใหม่ เพื่อบริหารความเสี่ยง และบริหารจัดการขนส่ง  ประกอบด้วย กิจการผลิตเครื่องจักร สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ของบริษัท นิเด็ค แมทชีนเนอรี่ (ประเทศไทย) มูลค่า 3.8 ล้านบาท ย้ายกิจการจากสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ไปตั้งใน จังหวัดปทุมธานีที่ไม่ถูกท่วม กิจการผลิตกระจกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของบริษัท เอจีซี อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) มูลค่า 890 ล้านบาท ย้ายกิจการจากเดิมที่ตั้งในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปตั้งที่เขตอุตสาหกรรมของ สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ที่จังหวัดลำพูน และกิจการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก และพาเลทจากกระดาษลูกฟูก ของบริษัท ยามาดาน (ไทยแลนด์) เงินลงทุน 3.8 ล้านบาท ย้ายกิจการจากสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ไปตั้งที่จังหวัดชลบุรี 

"ที่ผ่านมามีการอนุมัติโครงการจำนวนหนึ่งแล้ว ปัจจุบันจึงเหลือโครงการที่รออนุมัติรวม 42 โครงการ วงเงินประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท" ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์กล่าว

ทั้งนี้  หลังจากที่บีโอไอมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ที่ลงทุนในพื้นที่เดิมที่ถูกน้ำท่วม ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนเข้ามาแล้วรวม 72 โครงการ มูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นนักลงทุนในพื้นที่เดิม 57 โครงการ มูลค่าราว 2.8 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนรายใหม่เข้าลงทุนในพื้นที่น้ำท่วม 15 โครงการ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท