บริษัทวายแอลจี มองแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (3 ก.ค.) ผู้นำอียูเห็นพ้องในข้อตกลงเพื่อกระตุ้นการขยายตัวและการจ้างงานในยุโรป ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว หลังจากที่การประชุมเพื่อต่อสู้วิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กรุงบรัสเซลส์ได้ปิดฉากลง โดยที่ประชุมผู้นำอียูบรรลุข้อตกลงให้มีการนำเงินจากกองทุนฟื้นฟูถาวรของยุโรป เพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซนที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องในข้อตกลงการจัดสรรเงินมูลค่า 1.20 แสนล้านยูโร เพื่อกระตุ้นการขยายตัวและการจ้างงานในยุโรป ขณะที่รัฐสภาเยอรมนีมีมติอนุมัตมาตรการต่อต้านวิกฤตของสหภาพยุโรป 2 ฉบับ ซึ่งได้แก่ มาตรการการคลังฉบับใหม่ที่ว่าด้วยการสร้างวินัยด้านงบประมาณ และมาตรการอัดฉีดเงินมูลค่า 2 แสนล้านยูโร หรือ 2.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)
ข้อตกลงทั้งหมดนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์การต่อต้านวิกฤตหนี้สาธารณะ และยังทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีปรับตัวลดลงด้วย ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตามประเด็นทางยูโรโซนยังคงเป็นที่จับตามองของนักลงทุน เนื่องจากมาตรการต่างๆที่จะนำมาดำเนินการนั้นจำเป็นต้องใช้วงเงินจำนวนมาก ทำให้ประเด็นนี้ต้องติดตามต่อไป ทำให้วายแอลจีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น( Speculative Buy )เป็นหลัก อย่างไรก็ตามการจับตาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกนั้นยังไม่เพียงพอสำหรับนักลงทุนในประเทศ เพราะการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ ยังเป็นแรงกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศค่อนข้างมาก
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,613 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,625 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การเข้าซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น