ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง แนะกลยุทธ์ลงทุน ถือพอร์ต 55% พร้อม สะสม CPF / DEMCO


 กลยุทธ์วันนี้ 1190+/-
 

ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดยืนเหนือ 1200 จุดเป็นวันที่ 2 แม้ว่าจะปิดลบ 1.72 จุดมาอยู่ที่ 1200.08 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27,340 ล้านบาทกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าไทยอีกครั้ง ด้วยการซื้อสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,034 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Futures อีกครั้ง 449 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ถึง 6,411 ล้านบาท

SET INDEX วันนี้อาจย่อตัวลงสู่แนว 1190+/- จุดคล้ายกับวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 8.4 หมื่นตำแหน่งต่ำกว่าที่คาด แม้ว่าในภาพรวมอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 8.2% ก็ตาม อีกทั้งความเห็นของประธาน ECB ต่อภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปที่ยังเสี่ยงต่อการเติบโต ตลาดกังวลต่อตัวเลข GDP ใน 2Q55 ของจีนที่จะรายงานในวันที่ 13 ก.ค. อาจออกมาย่ำแย่กว่าคาด จนทำให้ PBOC ต้องลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพียงแต่สภาพคล่องทางการเงินที่ล้นอยู่ในระบบการเงินทั่วโลก ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยยังมี Downside Risk ที่จำกัด

ประเด็นสำคัญวันนี้: การประมูลขายพันธบัตรเยอรมันและฝรั่งเศส/ การประชุม ESM
ดังนั้นกลยุทธ์ MBKET แนะนำ ถือพอร์ตหุ้น 55% และเงินสด 45%” เพื่อรอขายบริเวณ 1220+/-
 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “ถือพอร์ต 55%” พร้อม “สะสม” CPF / DEMCO
 

กลยุทธ์ทางเลือกวันนี้: MBKET แนะนำ “พอร์ต Trading ที่กลับเข้าเปิด Long อีกรอบช่วงชะลอตัวไม่ต่ำกว่า 820 จุดไปแล้วเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา จังหวะดีดคืนแนะทำกำไร แนวต้านหลักวันนี้ 833 จุด” Stop loss <820 จุด
Portfolio   HOLD: VNT/ TTCL/CPF/ AP/ PS/ UMI/ SAT / AMATA/ TUF/ MAJOR/ BAY/ TCAP/ CPN/ KK/ PTTGC/ BANPU/ PTT/ SMIT/ SPCG/ DEMCO/ BBL / SMT
 

Accumulative Buy: CPF/ DEMCO
 

Technical View แนวรับ 1190+/-  จุด และ 1185 จุด แนวต้าน 1205+/- จุด และ 1215+/-จุด SET อยู่ในช่วงไต่ระดับตามแนวโน้มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นเพื่อเข้าทดสอบเป้าหมายในเชิงการวัดชุดเดิมแถว 1215 +/-

Action and Stock of the Day
SET INDEX ยังคงปิดเหนือ 1200 จุดเป็นวันที่ 2 ,คาด SET INDEX วันนี้ย่อตัวลงสู่บริเวณ 1190+/- อีกวัน

ตลาดหุ้นรอบเอเชียเมื่อวันศุกร์ ส่วนใหญ่ปรับฐานลง ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ตอบรับเชิงบวกจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ PBOC ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ต่างกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของยุโรป และจีน รวมถึงตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในคืนวันศุกร์

สำหรับตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ขยับขึ้นทำระดับสูงสุดได้เพียง 1205 จุด ก่อนที่จะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสัปดาห์เข้ามามากขึ้น บวกกับตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปค่อนข้างเป็นลบ จากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนและยุโรป ทำให้ SET INDEX ย่อตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่แนวรับ 1,190 จุดทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด ปิดเหนือ 1,200 จุดเป็นวันที่ 2 ที่ 1,200.08 จุด ลบ 1.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27,340 ล้านบาท

กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนโดดเด่นวานนี้ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล +3.54%, กลุ่มท่องเที่ยว +1.71% และกลุ่ม IMM +1.70% ส่วนกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร -0.65%, กลุ่มพลังงาน -1.08%, กลุ่มปิโตรเคมี -1.00%, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -0.85% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ +0.80%

ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
 

ตลาดหุ้นในเอเชียวันนี้ ปรับฐานลงต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด แม้ว่าภาพรวมอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 8.2% ก็ตาม อีกทั้งความกังวลต่อ GDP ใน 2Q55 ของจีนที่จะรายงานในวันที่ 13 ก.ค. อาจชะลอตัวลงมากกว่าคาด ทำให้นักลงทุนต่างระวังต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้

ด้าน SET INDEX วันนี้เชื่อว่าจะย่อตัวลงและแกว่งตัวบริเวณ 1190+/-จุด กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ลดลงแรงในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จะเป็นกลุ่มหลักที่กดดัน SET INDEX วันนี้ เพียงแต่ Downside Risk ของ SET INDEX ยังคงมีจำกัด จากแรงเก็งกำไรต่องบการเงิน 2Q55 รวมถึงเงินปันผลงวด 1H55 เป็นจุดจำกัดความเสี่ยงในช่วงสั้นนี้
 

MBKET แนะนำ “ถือพอร์ต 55% และเงินสด 45%” เพื่อรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,220 จุด +/- และแนวต้านสำคัญคือ High เดิมที่ 1,240 จุด +/- ทั้งนี้ตลาดต่างกังวลต่อตัวเลขเศรษฐกิจในจีนค่อนข้างมาก ดังนั้นการรายงานตัวเลขสำคัญทั้งการส่งออก – นำเข้า และ GDP ใน 2Q55 ของจีนอาจออกมาไม่แย่อย่างที่คาด และกลายเป็นจุดของการดีดตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้

ปัจจัยสำคัญวันนี้
1. การประมูลขายพันธบัตรในยุโรปวันนี้
 

a. เยอรมัน: ประมูลขายพันธบัตรอายุ 6 เดือน เวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย 
 

b. ฝรั่งเศส: ประมูลขายพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
 

MBKET คาดว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรของ 2 ประเทศจะขยับขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับ CDS Spread ที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าเยอรมันจะมีฐานะการคลังและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่า แต่ภาพรวมของการแก้ไขปัญหาในวิกฤติยุโรป เยอรมันกลับต้องรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากประเทศสมาชิกในกลุ่มอียู กลายเป็นจุดที่อาจทำให้การประมูลขายพันธบัตรในวันนี้ดูมีความสำคัญไม่น้อย
 

หากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรของเยอรมันเพิ่มขึ้น อาจเป็นการสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นยุโรปในบ่ายถึงค่ำวันนี้ได้เช่นกัน
 

2. ติดตามการประชุมในอียูต่อการใช้เงินกองทุน ESM: ระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ ล่าสุดฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เริ่มไม่เห็นด้วยกับการนำเงินกองทุนดังกล่าวไปซื้อพันธบัตรของสมาชิกในกลุ่มอียู ตามทีได้ตกลงไว้ใน EU Summits ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเสี่ยงต่อการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของกลุ่มอียูได้
 

3. หุ้นหลักเข้าสู่ช่วงของการพักฐานต่อเนื่อง: ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง จากแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับเงินสกุลหลัก แล้วกลุ่มธนาคารที่แม้ว่าจะมีแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q55 ที่เติบโตต่อเนื่อง qoq แต่ด้วยภาพรวมของการลงทุนช่วงสั้นที่เป็นลบ และไม่มีประเด็นบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุน ย่อมทำให้หุ้นหลักใน 3 กลุ่มดังกล่าวปรับฐานลงเล็กน้อยและเคลื่อนไหวออกด้านข้างแทน
 

4. หุ้นขนาดกลางและ/หรือ หุ้นที่ให้เงินปันผลงวด 1H55 จะเด่นในช่วงนี้: เพราะเป็นหุ้นที่ไม่ต้องพึ่งพิงกระแสเงินทุนต่างชาติ ดังนั้นหุ้นขนาดกลางและเล็กจะขยับขึ้นได้เด่นโดยเปรียบเทียบในช่วง 1-2 วันนี้ เพื่อรอดูตัวเลข การส่งออก – นำเข้าของจีนที่จะรายงานในวันที่ 10 ก.ค. รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลงวด 1H55 ออกมาเด่นๆ เช่น DEMCO / SMIT / TVO/ KK เป็นต้น

 กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ““ทยอยสะสม” ได้แก่
1. CPF : ราคาปิด 35.00 บาท ราคาเหมาะสม 44.50 บาท
 

a) สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น CPF ปรับตัวลง -8.5% มากกว่า SET FOOD -0.02% และ SET INDEX +5.4%  เชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทั้งความกังวลต่อการเกิดภาวะไข้หวัดนกในจีน และแนวโน้มผลประกอบการ 2Q55 ที่คาดว่าจะชะลอตัวลง qoq เหลือราว 3.4-3.9 พันล้านบาท และต่ำกว่าคาดการณ์เดิมของเราที่ 4.5 พันล้านบาท
 

b) อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าจะเป็นเพียงผลกระทบต่อราคาหุ้นในช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจาก
I. ธุรกิจหลักในจีนของ CPF คือธุรกิจอาหารสัตว์ ไม่ใช่ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์
II. คาดว่าผลประกอบการตั้งแต่ 3Q55 จะกลับเข้าสู่ทิศทางขยายตัว qoq หลังราคาเนื้อไก่ และหมูในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้วในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และตั้งแต่เดือน ก.ค. 2555 เป็นต้นไป ประเทศไทยจะสามารถส่งออกไก่สดแช่แข็งไปยัง EU ได้อีกครั้ง และเป็นรายได้ส่วนเพิ่มให้กับ CPF
 

c) ขณะที่ การปรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ของ EU ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2557- 2558 ส่งผลให้ผู้นำเข้ากุ้งแช่แข็งของไทยต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากปัจจุบันที่ 4.2% ไม่ใช่ประเด็นลบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกกุ้งไป EU ไม่ถึง 2% ของรายได้รวม
 

d) ภายใต้สมมติฐานที่มีความระมัดระวังมากขึ้น คาดว่ากำไรปกติปี 2555 จะเพิ่มขึ้น +8.3% yoy เป็น 15,476 ล้านบาท และเติบโต +41.6% yoy เป็น 21,915 ล้านบาทในปี 2556 และบริษัทจะมีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 11 ก.ค. นี้ ดังนั้น จึงคาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัว หากทิศทางผลประกอบการ 2Q55 ไม่ได้ลดลงมากเหมือนที่ตลาดกังวล
 

2. DEMCO : ราคาปิด 5.15 บาท ราคาเหมาะสม 6.40 บาท
 

a) MBKET ประเมินเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q55 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 110 – 120 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 40-50% qoq และ 2,200 – 2400% yoy จาก 2Q54 ที่มีฐานกำไรต่ำเพียง 4.75 ล้านบาท เนื่องจาก
I. มีการรับรู้รายได้จากการขายเสาโทรคมนาคมให้กับ Truemove มูลค่า 450 ล้านบาท
II. และเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมห้วยบงอย่างเต็มไตรมาส
 

b) และผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2555 เติบโตสูงถึง 187% yoy เป็น 342 ล้านบาท และขยายตัวต่อเนื่อง +28% yoy ในปี 2556 เป็น 439 ล้านบาท เนื่องจากเป็น 1 ในบริษัทที่ได้รับประโยชน์โดยตรง จากการสนับสนุนโครงการพลังงานทดทนของภาครัฐ ส่งผลให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังลม และแสงอาทิตย์ จะเพิ่มสูงถึง 3,200 MW ใน 9 ปีข้างหน้า คิดเป็นมูลค่างานรวม 2.9 แสนล้านบาท
 

c) รวมทั้งเป็นหุ้นขนาดกลางที่ Valuation ค่อนข้างถูก โดยซื้อขาย PER 2555 เพียง 8.05 เท่า และลดลงเหลือเพียง 6.28 เท่า ในปี 2556 หรือเทียบเท่า PEG 2555 เพียง 0.1 เท่า นอกจากนี้ ยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี เฉลี่ยปีละ 5.5% ในปี 55-56

What will DJIA move tonight? ไม่มีปัจจัยสำคัญคืนนี้
 


LastUpdate 09/07/2555 11:12:55 โดย : Admin

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:53 am