ครม. เห็นชอบ ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เพิ่มค่าครองชีพให้ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ
วันนี้ (10 ก.ค. 55) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 2/2555 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ
1. ยกเลิกคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 เรื่อง การจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ (ตามข้อ 2.1)
2. กำหนดเป็นขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงิน ตามมาตรา 13 (2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ที่ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งสามารถดำเนินการเองได้เมื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจนั้นเห็นชอบแล้ว ในเรื่องการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
2.1 หลักเกณฑ์การจ่าย อัตราการจ่าย และระยะเวลาบังคับใช้ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวทางราชการโดยอนุโลม
2.2 ใช้เงินงบประมาณของแต่ละรัฐวิสาหกิจเอง
ทั้งนี้ การจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวดังกล่าวไม่ถือเป็นค่าจ้างและมีลักษณะการจ่ายเป็นการชั่วคราว รวมทั้งไม่เป็นฐานในการคำนวณสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่ลูกจ้าง อนึ่ง หากคณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของทางราชการ ให้รัฐวิสาหกิจยกเลิกการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวแก่ลูกจ้างด้วย
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยในกลุ่มลูกจ้างที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีอัตราเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท จำนวน 31,224 คน ให้เพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวจนมีรายได้ครบ 15,000 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี และมีเงินเดือนต่ำกว่า 9,000 บาท จำนวน 21,591 คน ให้เพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเป็นให้มีรายได้ 9,000 บาท
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติให้ปรับอัตราค่าจ้างผู้ที่มีเงินเดือนไม่เกิน 50,000 บาท จำนวน 203,284 คนอีกไม่เกินร้อยละ 5 ส่วนผู้ที่มีเงินเดือนเกิน 50,000 บาท จำนวน 68,442 คนนั้น ที่ประชุม ครม.ไม่เห็นชอบให้ปรับขึ้นตามมติ ครม.เดิม โดยการปรับขึ้นค่าครองชีพและอัตราเงินเดือนครั้งนี้ ให้ใช้งบประมาณของแต่ละรัฐวิสาหกิจเอง และให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554
ข่าวเด่น