ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็งแนะถือเงินสด เพื่อรอซื้อหุ้นที่ราคาต่ำลงจากการเมืองวันนี้


กลยุทธ์วันนี้ Friday 13
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับฐานลงหลุดแนว 1200 จุด ลงมาปิดระดับต่ำสุดของวันที่ 1193.13 จุด ลบ 15.54 จุดหรือ 1.29% dod ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 21,624 ล้านบาท คาดว่านักลงทุนภายในประเทศชะลอการลงทุน จากประเด็นทางการเมืองในวันนี้ ด้านเงินทุนต่างชาติกับขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเพียง 47 ล้านบาทเท่านั้น แม้ว่าจะ Short สุทธิใน SET50 Futures อีกครั้ง 1,361 สัญญา และขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 973 ล้านบาท ภาพรวมของเงินทุนต่างชาติยังเป็นกลาง

SET INDEX วันนี้คาดเคลื่อนไหวผันผวนตลอดทั้งวัน นอกเหนือจากการรายงานตัวเลข GDP ใน 2Q55 ของจีนเช้านี้แล้ว การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเวลา 14.00 น.วันนี้ ซึ่งตลาดประเมินว่าจะอ่านเสร็จสิ้นในเวลา 15.00 น. น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของวันนี้ หากผลออกมาเป็นกลาง คาดว่า SET INDEX จะกลับยืนเหนือ 1200 จุด แต่หากออกมาเป็นกรณีที่เลวร้ายคือ ผิดต่อหลักกฎหมาย และยุบพรรคเพื่อไทย คาดว่า SET INDEX จะปรับฐานลงสู่แนว 1180-85 จุด สร้างบรรยากาศเชิงลบทันที

ประเด็นสำคัญวันนี้: ตัวเลข GDP ใน 2Q55 ของจีน, การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และการประมูลขายพันธบัตรระยะยาวของอิตาลีเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ดังนั้นกลยุทธ์ MBKET แนะนำ “ถือพอร์ต 55% และเงินสด 45%”  พร้อมจุด Stop Loss ที่ 1185/80 จุด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “ถือพอร์ต 55%” พร้อม “ “สะสม” AOT
กลยุทธ์ทางเลือกวันนี้: MBKET แนะนำ “พอร์ต Trading ที่ถือข้าง Long หากไม่อยากรับความเสี่ยงโดยการถือข้ามสัปดาห์ อาจปิดสถานะทำกำไรในจังหวะดีด โดยวันนี้มี Upside จำกัด 828-830 จุด” Stop loss <820 จุด
Portfolio   HOLD: VNT/ TTCL/CPF/ AP/ PS/ RML/ UMI/ SAT / AMATA/ TUF/ MAJOR/ BAY/ TCAP/ CPN/ KK/ PTTGC/ BANPU/ PTT/ SMIT/ SPCG/ DEMCO/ BBL / SMT/ JAS/ AOT
Accumulative Buy: AOT
Technical View แนวรับ 1185 จุด แนวต้าน 1200-1205 จุด และ 1215+/- จุด ถือครองส่วนที่เหลือเพื่อรอขายเมื่อขึ้นทดสอบเป้าหมายหลักบริเวณ 1215 +/-

Action and Stock of the Day
SET INDEX วานนี้หลุดแนว 1200 จุด

คาด SET INDEX วันนี้ผันผวน จากแรงเก็งกำไร – ปิดความเสี่ยง กรณีการเมืองไทย ,อย่างไรก็ตาม Downside Risk ยังคงจำกัดในความเห็นของ MBKET


ตลาดหุ้นรอบเอเชียวานนี้ปรับฐานลง จากความผิดหวังต่อรายงานการประชุมเฟด ที่ไม่ส่งสัญญาณการออกโครงการ QE#3 รวมถึงขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุน

สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับฐานลงหลุดแนว 1200 จุด และแกว่งตัวบริเวณ 1195+/- ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียและยุโรปที่ไม่เห็นประเด็นการเก็งกำไรในตลาดหุ้น อีกทั้งความกังวลต่อการเมืองไทยในวันที่ 13 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย ทำให้นักลงทุนลดการถือพอร์ต และกลับมาถือเงินสดมากขึ้น ปิดตลาด SET INDEX อยู่ที่ 1193.13 จุด ลบ 15.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 21,624 ล้านบาท

กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนโดดเด่นวานนี้ได้แก่ กลุ่มเหล็ก +0.14%, กลุ่มท่องเที่ยว +0.08% และกลุ่มFashion +0.01% ส่วนกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร -1.05%, กลุ่มพลังงาน -1.28%, กลุ่มปิโตรเคมี -1.31%, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -1.12%, กลุ่ม ICT -2.59% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ -0.73%

ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นในเอเชียวันนี้ แกว่งตัวบวก – ลบสลับกันไป ไร้ทิศทางที่ชัดเจน เพราะต่างรอดูตัวเลข GDP ใน 2Q55 ของจีนในช่วง 9.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ MBKET คาดว่า SET INDEX จะแกว่งตัวผันผวนตลอดชั่วโมงการซื้อขาย ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดทิศทาง SET INDEX วันนี้กลับอยู่ที่ผลการคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเวลา 14.00 น.วันนี้ ตัวเลข GDP ใน 2Q55 ของจีนกลับเป็นเพียงการประคอง หรือ แรงกดดันส่วนเพิ่มต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้เท่านั้น 

ดังนั้น MBKET แนะนำให้ “ถือพอร์ตการลงทุนที่ 55% และเงินสด 45%” พร้อม Stop Loss หาก SET INDEX หลุดแนว 1185/80 จุด โดยเป็นการ Stop Loss ราว 15% ของพอร์ต เพื่อถือเงินสดไว้สำหรับการสะสมหุ้นหลักที่ปรับฐานลงจากความไม่แน่นอนของการเมืองในวันนี้

ปัจจัยสำคัญวันนี้
1. ติดตามตัวเลข GDP ใน 2Q55 ของจีนเช้าวันนี้: ตลาดประเมินตัวเลขดังกล่าวไว้ที่ 7.5% yoy หาก
a. ตัวเลขออกมาใกล้เคียงหรือสูงกว่า: คาดตลาดหุ้นในเอเชียจะตอบรับในเชิงบวก โดยการฟื้นตัวไม่ต่ำกว่า 1.0%
b. ตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด: คาดว่าตลาดหุ้นในเอเชียจะเป็นเพียงการซึมลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดหุ้นในเอเชียปรับฐานลงตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา จากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่เสี่ยงต่อการเติบโตในระดับต่ำไปค่อนข้างมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้กลับมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยเพียงจำกัด หากเป็นกรณี a เชื่อว่า SET INDEX จะมี Downside Risk ที่จำกัดมากขึ้น แต่หากเป็นกรณี b จะกลายเป็นจุดกดดันตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นจากกรณีความเสี่ยงทางการเมือง
2. การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเวลา 14.00 น: ผู้เชี่ยวชาญต่างประเมินว่าศาลฯ จะอ่านเสร็จสิ้นในเวลา 16.00 น.
a. หากผลออกมาเป็น กลาง: คาด SET INDEX จะฟื้นตัวขึ้นและกลับมายืนเหนือ 1,200 จุด นำโดยกลุ่มธนาคาร เพราะยังมีประเด็นบวกต่อผลการดำเนินงานใน 2Q55 ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า
b. หากผลออกมาเป็น ลบ: โดยพรรคเพื่อไทยจะต้องถูกพิจารณายุบพรรคการเมือง เชื่อว่าจะเป็นแรงกดดันที่มีนัยยะสำคัญต่อ SET INDEX ให้หลุดแนวรับสำคัญ 1,185 จุด ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณลบต่อภาพรวมของ SET INDEX ทันที
3. Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีเช้านี้: ลดลง 2 ขั้น สู่ Baa2 พร้อมกับแนวโน้มเป็นลบ ทั้งนี้ MBKET ประเมินว่า ความเสี่ยงดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาวการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัด เพราะตลาดได้ซึมซับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวมามากและหลายเดือนติดต่อกันแล้ว
4. ติดตามการประมูลขายพันธบัตรอิตาลีวันนี้ คาดดอกเบี้ยพุ่ง: เวลา 16.00 น. เป็นการขายพันธบัตรอายุ 3 ปี – 7 ปี – 10 ปี – 11 ปี ทั้งนี้การประมูลขายพันธบัตรอิตาลีวานนี้ซึ่งเป็นอายุต่ำกว่า 1 ปี กลับมีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากการประมูลขายครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม เช้านี้ Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ย่อมสะท้อนกลับมายังต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นอย่างแน่นอนในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1. AOT : ราคาปิด 64.50 บาท ราคาเหมาะสม 96.70 บาท
a) วานนี้ AOT รายงานตัวเลขสถิติเดือน มิ.ย. ขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งจำนวนผู้โดยสารและจำนวนเที่ยวบิน โดยจำนวนผู้โดยสารรวม เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น +13.2% yoy เป็น 5.5 ล้านคน และจำนวนเที่ยวบิน เดือน มิ.ย. +9.3% yoy เป็น 38,115 เที่ยวบิน
b) ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารสะสม 9M55 +7.3% yoy เป็น 53 ล้านคน คิดเป็น 76.8% ของประมาณการทั้งปี และจำนวนเที่ยวบินสะสม 9M55 +8.5% yoy เป็น 357,845 เที่ยวบิน คิดเป็น 77.8% ของประมาณการทั้งปี ยังอยู่ในทิศทางที่เราคาดการณ์ไว้
c) และราคาหุ้นมีปัจจัยบวกต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ได้แก่
I. คาดว่ากรมการบินพลเรือนจะพิจารณาอนุมัติขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินขึ้นภายในเดือน ส.ค. โดยเพิ่มขึ้นจาก 700 เป็น 800 บาท สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และ 100 เป็น 150 บาท สำหรับเที่ยวบินในประเทศ และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ก.ย. 2556 เป็นต้นไป
II. การเริ่มย้ายสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Carrier) ไปยังสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป คาดว่าจะส่งผลให้มีกลับรายการด้อยค่าของสนามบินดอนเมืองเข้าสู่งบการเงินรวม 4Q55 (ก.ค. – ก.ย.2555) ราว 1,300 ล้านบาท หรือ ประมาณ 0.91 บาท / หุ้น
d) ดังนั้น เรายังคงมุมมองเชิงบวก ต่อการเติบโตของ AOT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Upside Risk ในระยะยาว จากการเปิดประชาคมเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 2558 และกำไรปกติปี 2555 คาดว่าจะเติบโตสูงถึง +64% yoy เป็น 6,653 ล้านบาท และ +35.9% yoy ในปี 2556 เป็น 7,741 ล้านบาท พร้อมทั้งให้เป็น Top pick ของหุ้นกลุ่มขนส่ง

What will DJIA move tonight? ปัจจัยสำคัญคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. และดัชนี Consumer Sentiment เดือนก.ค.
 

 

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ก.ค. 2555 เวลา : 11:48:38

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 1:46 am