หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นระยะ โดยล่าสุด น้ำมันดิบดูไบขึ้นไปอยู่ที่ 100.85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 118.28 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 115.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เกิดความวิตกว่าจะส่งผลให้ราคาขายน้ำมันปลีกในประเทศไทยปรับตัวสูงขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ที่ประชุม กบง.จึงมีมติให้ปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ให้ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 40 สตางค์ต่อลิตร เพื่อดูแลราคาขายปลีกน้ำมันไม่ให้ปรับสูงขึ้นมากเกินไป ทั้งนี้ให้มีผลในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) นายณอคุณ สิทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ ทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ มีรายได้ลดลง 33 ล้านบาทต่อวัน จาก 148 ล้านบาทต่อวัน เหลือเพียง 115 ล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ในปัจจุบันติดลบอยู่ที่ 15,900 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มในขณะนี้ อนึ่ง หลังมติดังกล่าว ส่งผลให้การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของดีเซลจะเหลือ 1 บาทต่อลิตร จาก 1.50 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 เหลือ 2.90 บาทต่อลิตร จาก 3.30 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ 94 เหลือ 1.30 บาทต่อลิตร 1.70 บาทต่อลิตร
ข่าวเด่น