ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลท.ปรับเกณฑ์ซื้อขายหุ้นให้เทียบเคียงตลาดหุ้นชั้นนำ เริ่มใช้ไตรมาส 3 ปีนี้


ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ให้เทียบเคียงตลาดหุ้นชั้นนำ เพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน พร้อมรองรับนวัตกรรมการซื้อขายและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการเชื่อมโยงการซื้อขายในระดับภูมิภาค มุ่งยกระดับและเพิ่มความน่าสนใจตลาดทุนไทย  

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์บางประการ ให้มีมาตรฐานที่เทียบเคียงได้กับตลาดหุ้นต่างประเทศชั้นนำ ซึ่งจะเอื้ออำนวยต่อการรองรับนวัตกรรมการซื้อขายและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน รวมทั้ง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมแก่บริษัทสมาชิกสำหรับการเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ในระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถตลาดหลักทรัพย์ไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากล

สาระสำคัญของเกณฑ์ที่มีการปรับปรุง เช่น การปรับปรุงกรอบราคาซื้อขายสูงสุด-ต่ำสุด การปรับปรุงวิธีคำนวณราคาเปิดและปิดของหลักทรัพย์ การเพิ่มประเภทคำสั่งซื้อขายที่ราคาตลาด และการแก้ไขคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น

สำหรับการปรับปรุงกรอบราคาซื้อขายสูงสุด-ต่ำสุด (Ceiling & Floor Prices) ของหลักทรัพย์ที่เข้าซื้อขายวันแรก เพื่อให้เกิดความสะดวกสำหรับทั้งผู้ลงทุน และบริษัทสมาชิก รวมทั้ง สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ได้กำหนดให้หลักทรัพย์ที่เข้าซื้อขายวันแรก (IPO) ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant: DW) และใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (Transferable Subscription Right: TSR) สามารถปรับขึ้นลงในอัตราที่เท่ากัน

สำหรับหลักทรัพย์ที่เข้าซื้อขายวันแรก (IPO) ให้ Ceiling & Floor อยู่ที่ระดับสูงสุดและต่ำสุดไม่เกิน 3 เท่าจากราคา IPO ทั้งนี้ราคา Floor ต้องไม่ต่ำกว่า 0.01 บาท ส่วนการซื้อขายวันแรกของ Warrant  DW และ TSR ให้ Ceiling & Floor มีระดับสูงสุดและต่ำสุดจากราคาเสนอขายครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 1 เท่า ของราคาปิดหุ้นอ้างอิงวันก่อนหน้าคูณด้วยอัตราการใช้สิทธิต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้ราคา Floor ต้องไม่ต่ำกว่า 0.01 บาท

การปรับปรุงวิธีคำนวณราคาเปิดและปิดของหลักทรัพย์ โดยคงหลักการที่ใช้ราคาที่จับคู่กันแล้วเกิดปริมาณการซื้อขายมากที่สุด  แต่ในกรณีที่มีราคาดังกล่าวมากกว่า 1 ราคา ระบบจะเพิ่มความละเอียดในกระบวนการหาราคาเพื่อให้สะท้อนอุปสงค์อุปทานได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

การเพิ่มเติมและปรับปรุงประเภทของคำสั่งซื้อขาย  เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เลือกส่งคำสั่งซื้อขายได้หลากหลายขึ้น ได้แก่ Special Market Order, Market Order และ Market to Limit Order เป็นต้น ตัวอย่างเช่นคำสั่ง Market Order เป็นคำสั่งที่จะจับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามที่ราคาตลาดได้หลายราคา และหากจับคู่ไม่หมด ระบบจะยกเลิกจำนวนที่เหลือให้โดยอัตโนมัติ จึงเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ทั้งผู้ลงทุนและบริษัทสมาชิก

การแก้ไขคำสั่งซื้อขาย (Order Amendment) เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสามารถลดปริมาณหุ้นในคำสั่งซื้อขายระหว่างวันได้ หากคำสั่งที่ส่งไปยังไม่ได้รับการจับคู่ โดยบริษัทสมาชิกที่เป็นผู้ส่งคำสั่งดังกล่าวไม่ต้องยกเลิกและส่งคำสั่งใหม่ ยกเว้นการปรับเพิ่มจำนวนหุ้น บริษัทสมาชิกจะต้องส่งคำสั่งใหม่ เพื่อไปรอลำดับการจับคู่ใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงและยกเลิกเกณฑ์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวแก่บริษัทสมาชิกในการปฏิบัติงาน โดยเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากบริษัทสมาชิก โดย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แจ้งรายละเอียดของเกณฑ์ใหม่ให้บริษัทสมาชิกทุกรายทราบและศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว ทั้งนี้ เกณฑ์การซื้อขายที่มีการปรับใหม่นี้จะเริ่มใช้พร้อมกับการเปิดใช้ระบบการซื้อขายใหม่ในไตรมาส 3 ปีนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ก.ค. 2555 เวลา : 18:35:58

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:55 am