นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลประกอบการธนาคารช่วงครึ่งปีแรก 2555 (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2555)  มีกำไรสุทธิก่อนหักผลกระทบมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19 จำนวน 9,537 ล้านบาท  มาจากรายได้ดอกเบี้ย สินเชื่อ รวมทั้งความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ
        
 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 มีสินทรัพย์รวม 1,797,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 จำนวน 25,380 ล้านบาท จากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ทำให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นสุทธิ 135,455 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 10.02 จากสิ้นปี 2554 คิดเป็น 1.43 เท่าของเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มสุทธิ  เป็นการให้สินเชื่อที่ครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อบุคคลรายย่อย สินเชื่อแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก โดยสินเชื่อคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 อยู่ที่ 1,487,445 ล้านบาท โดยที่ธนาคารฯ ยังดำรงสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 93 : 7
        
 ขณะที่การรับฝากเงิน ภายใต้ภารกิจความเป็นสถาบันเพื่อการออมของธนาคารออมสิน ปรากฏว่ามียอดเงินฝากรวม 1,575,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 จำนวน 49,659 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.25 โดยตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ปริมาณเงินฝากยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากการที่ธนาคารฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 399 วัน และสลากออมสินพิเศษ 3 ปี งวดใหม่ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่จูงใจผู้ฝาก

“ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ขณะที่ธนาคารออมสินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ประกอบกับมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ที่จูงใจ โดยการเลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากออกไปไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด" นายธัชพล กล่าว
        
 สำหรับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ส่งผลให้ลูกค้าขาดความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารฯ จึงได้ผ่อนปรนด้วยมาตรการต่างๆ เป็นผลให้การรับรู้รายได้ของธนาคารฯ ลดลงในช่วงต้นปี 2555 และต้องบันทึกยอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ตามเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯ ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม พร้อมกับเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้  โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 มีปริมาณหนี้ NPLs อยู่ที่ 16,656 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.12 ของสินเชื่อรวม โดยที่ธนาคารฯ ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงกว่า 9,000 ล้านบาท
         
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ร้อยละ 1.08 อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน (ROE) อยู่ที่ร้อยละ 16.16 สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินลงทุน เท่ากับ 85 : 15 ขณะที่สินทรัพย์สภาพคล่องต่อเงินฝาก อยู่ที่ร้อยละ 12.85 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ร้อยละ 11.54 และนำส่งรายได้เข้ารัฐไปแล้วในครึ่งปีแรก จำนวน 4,532 ล้านบาท
         
ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญด้านบริการอย่างมีคุณภาพ โดยตนจะให้นโยบายด้านคุณภาพ (Quality) แก่ผู้บริหารและพนักงาน สำหรับงานด้านต่างๆ อาทิ การบริหารสินทรัพย์ การบริหารและพัฒนาบุคลากร และงานด้านบริการ เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินงานของธนาคารฯ เป็นไปตามเป้าหมายในทุกด้าน พร้อมกับหวังเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมจากธุรกิจที่มีใบอนุญาต อาทิ นายหน้าประกันภัย ธุรกิจหลักทรัพย์ เป็นต้น รวมถึงเพิ่มปริมาณเงินลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 อยู่ที่ 218,731 ล้านบาท โดยที่มีเครือข่ายช่องทางการให้บริการของธนาคารออมสินที่พร้อมจะมุ่งนำนโยบายดังกล่าวไปสู่เป้าหมาย ผ่านสาขาให้บริการเต็มรูปแบบจำนวน 888 แห่ง หน่วยให้บริการบนอำเภออีก 43 แห่ง