สภาวะตลาดวันที่ 25 กรกฏาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,578.59 – 1,589.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ12 อยู่ที่ 23,990 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 23,870 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ12 อยู่ที่ 866 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 865 บาท                                                                      
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.26 น.ของวันที่ 25/07/12)

แนวโน้มวันที่ 26 กรกฏาคม 2555   
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังคงยืนยันว่า หากทางรัฐบาลกรีซไม่สามารถที่จะรักษาระดับหนี้ได้ตามที่กำหนดไว้ ก็จะมีการระงับเงินช่วยเหลือในงวดต่อไป ส่งผลให้นักลงทุนต่างวิตกกังวลต่อสถานการณ์ของกรีซว่าอาจไม่สามารถที่จะอยู่ในยูโรโซนต่อไปได้ เพราะสถานะทางการเงินของกรีซขึ้นอยู่กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนักลงทุนยังวิตกกังวลว่ากรีซยังไม่สามารถดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ ได้สร้างแรงกดดันในตลาดทองคำ ส่งผลให้เมื่อราคาทองคำมีการขยับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นได้ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และทางสถาบัน Ifo มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลงแตะ 103.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศทางธุรกิจของประเทศขนาดใหญ่อย่างเยอรมนีเช่นกัน

โดยวายแอลจีอยากชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะประเด็นปัญหาเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป(อียู) ยังไม่มีสัญาณบวกที่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น และจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับพิจารณาปัญหาหรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,600  ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
  

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,570 (23,560บาท)       1,565 (23,490บาท)      1,555 (23,340บาท)     
แนวต้าน    1,600 (24,020บาท)      1,609 (24,150บาท)       1,620 (24,320บาท) 
 
GOLD FUTURES (GFQ12)
แนวรับ      1,570 (23,720บาท)       1,565 (23,640บาท)      1,555 (23,490บาท)     
 แนวต้าน    1,600 (24,170บาท)      1,609 (24,310บาท)       1,620 (24,470บาท) 

SILVER FUTURES (SVQ12)
  แนวรับ       26.60 (851บาท)        26.10 (836บาท)        25.80 (826บาท)
  แนวต้าน     27.60 (883บาท)        27.85 (891บาท)        28.20 (902บาท)