สภาวะตลาดวันที่ 31 กรกฏาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,619.60 – 1,624.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ12 อยู่ที่ 24,360 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,350 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ12 อยู่ที่ 894 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 15 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 879 บาท                                                                      
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 31/07/12)

แนวโน้มวันที่ 1 สิงหาคม 2555   
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประชุมร่วมกับ รัฐมนตรีคลังเยอรมนี และ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) โดยหารือกันอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูโรโซน การเดินทางเยือนของรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หนุนการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะกดดันเยอรมนีให้ดำเนินมาตรการที่จริงจังมากขึ้นในตลาดพันธบัตรเพื่อควบคุมต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีที่พุ่งสูงเพื่อปกป้องยูโรโซน หลังการพบปะรัฐมนตรีคลังสหรัฐและรัฐมนตรีคลังเยอรมนีทั้งสองได้แสดงความเชื่อมั่นในการปฏิรูปและผลักดันการรวมกลุ่มกันมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่ายุโรปจะใช้มาตรการเชิงรุกในเร็วๆนี้ นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลลงสะท้อนให้เห็นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปน ร่วงลงสู่ระดับ 6.5% และด้านต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.96% ได้เป็นแรงหนุนพยุงราคาทองคำไว้

อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งนักลงทุนรอคอยความชัดเจน ก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปเพื่อใช้ในการชี้นำราคาทองคำให้เคลื่อนตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้วายแอลจีเชื่อว่า ราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway หากนักลงทุนระยะยาวที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจชะลอไปก่อน เนื่องจากทิศทางราคาทองคำไม่ชัดเจนทำให้การลงทุนในช่วงนี้มีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับสูงขึ้น แต่หากเป็นนักลงทุนระยะสั้นเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงบริเวณ1,611-1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจทยอยเข้าซื้อบางส่วนเพื่อลงทุนในกรอบ

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ซึ่งกรอบราคาด้านบนประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,633 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยการแกว่งตัวของราคาอาจเพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,611 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป
  

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,611 (24,020บาท)       1,600 (23,860บาท)      1,595 (23,780บาท)     

แนวต้าน    1,633 (24,350บาท)      1,640 (24,460บาท)       1,650 (24,610บาท) 
 
GOLD FUTURES (GFQ12)
แนวรับ      1,611 (24,170บาท)       1,600 (24,010บาท)      1,595 (23,930บาท)     
       

แนวต้าน    1,633 (24,500บาท)      1,640 (24,610บาท)       1,650 (24,760บาท) 

SILVER FUTURES (SVQ12)
แนวรับ       27.85 (879บาท)        27.60 (871บาท)        27.35 (863บาท)
      

แนวต้าน     28.60 (903บาท)        29.10 (918บาท)        29.45 (929บาท)    

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520  หรือ www.ylgbullion.com