โดยได้รับการเปิดเผยจาก “จุฑามาศ ทรัพย์ประดิษฐ์” นักวิจัยประจำมูลนิธิบูรณะนิเวศ ซึ่งร่วมมือกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยืนยันการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ครีมหน้าขาว ที่มีการวางจำหน่ายในท้องตลาดจำนวน 47 ชนิด พบว่า มี 10 ชนิด ที่มีสารปรอทปนเปื้อนในปริมาณที่สูงมาก โดยค่าที่ตรวจพบสูงสุด 99,070 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ขณะที่ตามกฎหมายมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางของกลุ่มประเทศอาเซียน ระบุสารปรอทเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง หรือต้องมีปริมาณเท่ากับ 0 ppm

นอกจากนี้ ยังพบว่า ครีมหน้าขาวที่ปนเปื้อนสารปรอททั้งหมด แสดงข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วนตามประกาศของคณะกรรมการเครื่องสำอาง อย. เรื่องฉลากของเครื่องสำอาง พ.ศ. 2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีการระบุ “เลขที่ใบรับแจ้ง”

การที่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ระบุข้อมูลเลขที่ใบรับแจ้ง ก็แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่ปรากกฎชื่อผลิตภัณฑ์ในฐานข้อมูลของ อย. ซึ่ง อย.จะไม่มีฐานข้อมูลดังกล่าว และไม่สามารถติดตามตรวจสอบแหล่งผลิตได้ หากผู้บริโภคพบปัญหาการใช้เครื่องสำอางชนิดนี้
       
 "ครีมหน้าขาวที่ตรวจพบสารปรอทในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ อย.เคยตรวจพบสารปรอทมาแล้ว และ อย.เคยประกาศให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเครื่องสำอางที่ทำผิดกฎหมายและมีอันตราย แต่จากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ก็ยังพบว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทำผิดกฎหมายเหล่านี้ยังคงวางจำหน่ายในท้องตลาดต่อไป ซึ่งได้แก่ ครีม FC น้ำนมข้าว (พบสารปรอทสูง 99,070 ppm) ไวท์โรส ครีมรกแกะ (51,600 ppm) เหมยหยง ครีมสมุนไพรสาหร่าย (41,770 ppm) เบสท์ บิวตี้ (34,430 ppm) เพิร์ล ครีมหน้าเด้ง (13,800 ppm) มาดาม ออร์แกนิค ไข่มุก (3,435 ppm) และเบบี้เฟซ ครีมหน้าขาว (81.14 ppm) นอกจากนี้ การสุ่มตัวอย่างยังพบครีมหน้าขาวปนเปื้อนสารปรอทอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ปรากฏในรายการเครื่องสำอางอันตรายของ อย. ได้แก่ ครีมยี่ห้อไบโอคอลลาเจน (47,960 ppm) เนเจอร์ (7,300 ppm) และครีมบำรุงมะหาด (63.53 ppm)" นักวิจัยประจำมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าว

สำหรับอันตรายจากสารปรอท จะทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นแดง ทำลายสีผิว หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะเกิดพิษสะสมและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ตับและไตอักเสบ เกิดโรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และหากสะสมอยู่ในร่างกายของสตรีมีครรภ์ จะสามารถถ่ายทอดไปยังบุตร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความพิการที่เกิดขึ้นกับบุตรได้

ทั้งนี้ ครีมหน้าขาวที่ปนเปื้อนสารปรอทนี้ ไม่ได้มีจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูกเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์ที่ราคาแพงก็มีการปนเปื้อนของสารปรอทด้วย ผู้บริโภคจึงไม่สามารถแยกแยะได้ง่ายว่าผลิตภัณฑ์แบบใดจะปลอดภัยจากสารโลหะหนักที่มีพิษร้าย
 

ส่วนเหตุผลที่ผู้ประกอบการมักจะลักลอบผสมสารปรอทในเครื่องสำอาง เนื่องจากสารปรอทมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง ทำให้ผิวจางลง โดยผู้ที่ทำการผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ