ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เตรียมวงเงิน 20,000 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ “โครงการบ้าน ธอส. – ธปท. เพื่อผู้ประสบอุทกภัย” สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ประสบอุทกภัย ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ไถ่ถอน ชำระหนี้ที่อยู่อาศัย ซื้ออุปกรณ์ฯ และลดดอกเบี้ย วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปีแรก หลังจากนั้นกรณีลูกค้าสวัสดิการคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR – 1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไปคิดอัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MRR – 0.50% ต่อปี (กรณีกู้ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย / ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR) ผู้ สนใจเตรียมเอกสารให้ครบ สามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2556
นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดสรรวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนรอบแรกให้กับ ธอส. สำหรับนำมาปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ สำหรับลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ ที่ประสบอุทกภัย ภายใต้ “โครงการบ้าน ธอส. – ธปท. เพื่อผู้ประสบอุทกภัย” จำนวน 6,000 ล้านบาท รวมกับวงเงินสมทบจาก ธอส. อีกจำนวน 3,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 9,000 ล้านบาท โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้สนใจใช้สิทธิ์รอบแรก เต็มวงเงิน 9,000 ล้านบาท และได้อนุมัติไปแล้วเกือบเต็มวงเงิน
“ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะผู้นำสินเชื่อเพื่อบ้านได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยของผู้ประสบอุทกภัย จึงได้ขอวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนจาก ธปท. เพิ่มอีก จำนวน 14,000 ล้านบาท รวมกับ วงเงินสมทบจาก ธอส.อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปีแรก หลังจากนั้นกรณีลูกค้าสวัสดิการ คิดอัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MRR – 1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไปคิดอัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MRR – 0.50% ต่อปี กรณีกู้ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย / ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก คิดอัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 7.25% ต่อปี)
“เงื่อนไขและหลักเกณฑ์โครงการดังกล่าวฯ สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส.และลูกค้าใหม่ ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ปี 2554 และอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน หรือผู้มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน สถานที่ประกอบอาชีพ หรือสถานประกอบธุรกิจอยู่ในเขตพื้นที่อุทกภัย ต้องการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปีแรก โดยธนาคารให้กู้เพื่อซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ให้กู้เพื่อต่อเติม – ซ่อมแซมอาคารเดิมที่ได้รับความเสียหาย ให้กู้เพื่อปลูกสร้างทดแทนอาคารเดิมที่ได้รับความเสียหาย ให้กู้เพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ให้กู้เพื่อชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ให้กู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกฯ และให้กู้เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในบัญชีเงินกู้ที่มีอยู่กับ ธอส. วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท กู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายแล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี ทั้งนี้เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย อันเกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ปี 2554” นายวรวิทย์ฯ กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารมีความพร้อมในการรับเรื่องยื่นคำขอกู้ ในวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2555 นี้ โดยในเบื้องต้นลูกค้าจะต้องแสดงหลักฐานการยื่นกู้ดังนี้
1. เอกสารรายได้ อาทิ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน บัญชีเงินฝาก สำเนาการค้า หรือหลักฐานการเสียภาษี
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ / ใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
3. สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า
4. สำเนาทะเบียนสมรส / หย่า / มรณะบัตร แล้วแต่กรณี
5. กรณีหลักประกันหรือที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายให้แสดงหลักฐานหนังสือรับรองของหน่วยงานราชการว่าอยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
6. กรณีได้รับผลกระทบกับรายได้ หรือสูญเสียรายได้ เนื่องจากประสบอุทกภัย ให้แสดงหลักฐานหนังสือ รับรองของหน่วยงานราชการ หรือหนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัดว่าได้รับผลกระทบหรือสูญเสียรายได้
7. สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนา น.ส.3ก. หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด
8. กรณีซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ซื้อห้องชุด ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร ให้แสดงสำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ
สามารถยื่นคำขอกู้ได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร 0 – 2645 – 9000 หรือ www.ghbank.co.th
ข่าวเด่น