ครั้งแรกกับการทำการศึกษาและวิจัยเชิงลึกร่วมกันด้านเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สององค์กรพันธมิตรผู้นำด้านอุตสาหกรรมและด้านการเงิน สานต่อความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรมในโครงการ “ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรม ปี 2555 – 2557” เตรียมเงินทุนกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมบริการทางการเงินที่ครบวงจร และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งระหว่างผู้ประกอบการทั้ง 42 กลุ่มอุตสาหกรรม ใน 12 คลัสเตอร์ รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ด้านธุรกิจในเชิงลึกให้กับผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือทางวิชาการ โดยทีมนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผนึกกำลังกับส.อ.ท. นำข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากผู้ประกอบการ SMEs โดยตรง มาวิเคราะห์และนำเสนอ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและสามารถแข่งขันในเวทีระดับสากลพร้อมเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ และส.อ.ท. เป็นพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งด้านวิชาการและการนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบวงจร รวมถึงการผสานความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายสมาชิกอุตสาหกรรมกว่า 42 กลุ่มอุตสาหกรรม ใน 12 คลัสเตอร์ ที่ ส.อ.ท. มีอยู่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เอสเอ็มอีไทย ผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆมากมาย รวมถึงโครงการ “ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรม” ซึ่งมีระยะเวลาความร่วมมือ 2 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2557โดยในส่วนของธนาคารจะให้การสนับสนุนทางด้านการเงินเพื่อการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการ เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษเกี่ยวกับบริการทางการเงินที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงการสนับสนุนด้านวิชาการทั้งการเสริมสร้างความรู้ผ่านการสัมมนาต่างๆ รวมถึงโครงการพิเศษด้านความร่วมมือทางวิชาการในการแลกเปลี่ยนและวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันระหว่างศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ และส.อ.ท. เพื่อเจาะลึกอุตสาหกรรมรายภูมิภาคและนำเสนอให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั่วประเทศอีกด้วย”
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากตัวแปรวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน ซึ่งตัวแปรเหล่านี้ยังส่งผลถึงทิศทางต้นทุนการผลิตและเงินเฟ้อในประเทศที่อาจจะกลับมาปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย จำเป็นต้องเร่งเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้สามารถแข่งขันและต่อสู้กับตลาดโลกให้ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนอกจากผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือการสนับสนุนด้านต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย ส.อ.ท. และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ และได้ผนึกความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ทั้งทางด้านการสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ การส่งเสริมด้านการตลาดผ่านการจัดงานแสดงสินค้า รวมถึงการสนับสนุนบริการทางการเงินครบวงจร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกอบการและเศรษฐกิจของประเทศ
“สำหรับความร่วมมือ “โครงการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรม ปี 2555 – 2557” ครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ จะขยายขอบเขตการทำงานร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งผู้ประกอบการในรายอุตสาหกรรม (Sector base) ผู้ประกอบการในรายพื้นที่ (Area base) กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และภาพรวมของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเชิงวิชาการ สภาอุตสาหกรรมฯ จะเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง จากการทำ Focus Group หรือ Forum ต่างๆ เพื่อให้ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์และสรุปผลในประเด็นต่างๆ อันจะเกิดประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับ AEC ประเด็นผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั้งจากกลุ่มจังหวัดที่ได้รับผลกระทบแล้ว และที่กำลังจะได้รับผลกระทบในปี 2556 หรือประเด็นอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ รวมไปจนถึงการชี้แนะแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของไทยอีกด้วย”
โครงการ “ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ปี 2555 – 2557” ประกอบไปด้วยโครงการย่อยจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการเสริมสร้างความรู้ให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม 2) โครงการสนับสนุนบริการทางการเงินครบวงจรและสิทธิพิเศษแก่สมาชิกส.อ.ท.3) โครงการสนับสนุนทางด้านการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย 4) โครงการด้านวิชาการ
ข่าวเด่น