นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน  กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)วันนี้ (11 ก.ย.) มีมติปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 20 สตางค์/ลิตร

และลดอัตราเงิน ชดเชยของน้ำมันดีเซล 20 สตางค์/ลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) ซึ่งจะช่วยลดภาระการชดเชยของกองทุน  อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯดังกล่าว จะไม่มีผลกระทบต่อราคา ขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใด 
      
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระลดลงจากเดิมติดลบ 112 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบลดลงเหลือ 106 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ติดลบ 17,114 ล้านบาท
     
โดยหลังปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน น้ำมันฯส่งผลให้การจัดเก็บเงิน สำหรับน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 อยู่ที่ 6.80 บาท/ลิตร  จากเดิมที่ 7 บาท/ลิตร ,เบนซิน ออกเทน 91 อยู่ที่ 5.50 บาท/ลิตร จากเดิมที่ 5.70  บาท/ลิตร   แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 1.10 บาท/ลิตร จากเดิมที่ 1.30 บาท/ลิตร ,แก๊สโซฮอล์ 91 ชดเชยเพิ่มเป็น 1.20 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชย 1.00 บาท/ลิตร , E20 ชดเชยเพิ่ม เป็น 1.50 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชย 1.30 บาท/ลิตร    E85 ชดเชยเพิ่มเป็น 12.40 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชย 12.20 บาท/ลิตร และ ดีเซล ลดการชดเชยเป็น 0.60 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชยที่ 0.80 บาท/ลิตร 
       
กองทุนน้ำมันฯ เป็นหนึ่งในเครื่องมือของรัฐบาล ที่ใช้ในการดูแลราคา พลังงานโดยมีรายได้จากการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากน้ำมันประเภทต่างๆ ขณะที่ มีรายจ่ายเพื่อชดเชยราคาพลังงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาระหนี้ที่ใช้ชดเชยราคาก๊าซ ปิโตรเลียมเหลว(LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV)